แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหาร โรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 2) เพื่อศึกษาวิธีการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณการใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 จำนวน 285 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพทำการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 15 รูป/คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทั้ง 4 ด้าน โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านคุณลักษณะทางสติปัญญา ด้านคุณลักษณะทางพฤติกรรม ด้านคุณลักษณะทางร่างกาย และ
ด้านคุณลักษณะทางอารมณ์ ตามลำดับ 2) วิธีการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย (1) ด้านคุณลักษณะทางอารมณ์ ผู้บริหารที่ดีต้องเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อดทน อดกลั้น และรับมือกับความเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี มีความยุติธรรม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (2) ด้านคุณลักษณะทางร่างกาย แม้จะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพภายนอก แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริหารไม่ควรมองข้าม ผู้บริหารที่ดีควรมีบุคลิกภาพที่ดี ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ (3) ด้านคุณลักษณะทางพฤติกรรม คุณลักษณะด้านพฤติกรรมเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้บริหาร ผู้บริหารที่ดีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความยุติธรรม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นทีมได้ สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (4) ด้านคุณลักษณะทางสติปัญญา ผู้บริหารที่ดีต้องมีความรู้ความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบอย่างลึกซึ้ง สามารถวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ มีความคิดริเริ่ม และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้ 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหารโรงเรียนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ (1) ผู้นำที่ดีต้องมีจักขุมา (ผู้นำมีวิสัยทัศน์กว้างไกล) ผู้บริหารต้องมองเห็นภาพรวม
ยึดมั่นในความยุติธรรมและความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการสร้างความสามัคคี ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความสามัคคี มองความขัดแย้งเป็นโอกาสในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ (2) ผู้นำที่ดีต้องมีวิธูโร (ผู้นำมีความรู้ ความสามารถ) ผู้บริหารต้องมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของความขัดแย้ง สามารถวิเคราะห์สาเหตุและรูปแบบของความขัดแย้งได้อย่างถูกต้อง เพื่อเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ควรมีความรู้ด้านจิตวิทยาเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของบุคคลมีทักษะการสื่อสารที่ดี เช่น การฟังอย่างตั้งใจ การใช้ภาษาที่เหมาะสม และการแสดงความเห็นอกเห็นใจเพื่อลดความตึงเครียดและสร้างความเข้าใจระหว่างกัน มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา ไม่ยึดติดกับวิธีการแบบเดิม
(3) ผู้นำที่ดีต้องมีนิสสยสัมปันโน (ผู้นำมีมนุษยสัมพันธ์ดี) ผู้บริหารต้องเข้าถึงและรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอย่างเท่าเทียม สร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานประโยชน์ หาจุดร่วม และสร้างสมดุลระหว่างความต้องการที่แตกต่าง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
ดารุณี พิพัฒนผล. (2553). ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์.
นฤมล โยคานุกุล. (2556). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เนตร์พัณณา ยาวิราช. (2552). ภาวะผู้นำและผู้นำเชิงกลยุทธ์. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พรพิมล แก้วอ่อน. (2564). แนวทางการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 ตามหลักทุติยปาปณิกสูตร ของผู้บริหารโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนฟ้าอุดม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสังฆรักษ์ภูวนน ธีรวฑฺฒโน (เริ่มศรี). (2566). ภาวะผู้นำตามหลักทุติยปาปณิกสูตร ของผู้บริหารโรงเรียนการกุศลของวัด ในพระพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสิริจันทนิวิฐ (บุญจันทร์ เขมกาโม). (2549). ภาวะผู้นำเชิงพุทธ. กรุงเทพมหานคร: นิติการพิมพ์.
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยตฺโต). (2546). ภาวะผู้นำ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร: สุขภาพใจ.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2552). พุทธธรรม ฉบับขยายความ. พิมพ์ครั้งที่ 20. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สหธรรมมิก.
พระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน และศุขภิญญา ศรีคำไทย. (2565). การบูรณาการหลักพุทธธรรมกับสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษา. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 3(1), 70–78.
พัชรี ชำนาญศิลป์. (2557). ภาวะผู้นำเชิงพุทธ. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์. (2544). วิสัยทัศน์ขุนคลัง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ผู้จัดการ.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2548). มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ประถม มัธยมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา.
สุวรีย์ ศิริโภคาภิรมย์. (2546). การวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. ลพบุรี: สถาบันราชภัฏเทพสตรี.
เอก ธีรวุฒิ. (2554). ภาวะผู้นำเชิงพุทธของข้าราชการตำรวจ. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.