พุทธวิธีการบริหารการจัดการศึกษาปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารการจัดการศึกษาปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาปฐมวัย จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อเสนอพุทธวิธีการบริหารการจัดการศึกษาปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 การวิจัยนี้เป็นวิจัยแบบผสมวิธีโดยวิธีวิจัยเชิงปริมาณทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 383 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนและประมาณค่า ได้ค่าความเชื่อมั่นที่ 0.86 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) และ F-test ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพทำการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน เครื่องมือวิจัยแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพการบริหารการจัดการศึกษาปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความคิดเห็น โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก รองลงมา การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การบูรณาการการเรียนรู้ 2) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษาและประสบการณ์การทำงาน พบว่า ไม่แตกต่างกัน 3) พุทธวิธีการบริหารการจัดการศึกษาปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ได้แก่ (1) การสร้างหลักสูตรที่เหมาะสม การนำหลักไตรสิกขามาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับปฐมวัยจะช่วยให้เด็กได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างครบถ้วนทั้งในด้านศีล สมาธิ และปัญญาที่จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและทักษะการเรียนรู้ที่ดีในอนาคต (2) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก การสร้างมุมการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารสถานศึกษาควรให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการพัฒนาเด็ก ทั้งในด้านศีล สมาธิ และปัญญา (3) การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก การจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารสถานศึกษาควรเน้นการส่งเสริมศีล สมาธิ และปัญญาผ่านกิจกรรมที่ให้เด็กได้เรียนรู้การเคารพในตัวเองและผู้อื่น การควบคุมอารมณ์และการพัฒนาความคิดวิเคราะห์ (4) การบูรณาการการเรียนรู้ ในการใช้สื่อการสอนที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ผู้บริหารควรคำนึงถึงการเลือกสื่อที่ส่งเสริมศีล สมาธิ และปัญญา โดยการใช้สื่อที่มีคุณค่าทางด้านจริยธรรมและสร้างระเบียบในการเรียนรู้ ส่งเสริมการพัฒนาสมาธิและความตั้งใจในการเรียน และกระตุ้นให้เด็กคิดวิเคราะห์และเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับวัย
(5) การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก การนำผลการประเมินมาปรับแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารสถานศึกษา ได้แก่ การรับผิดชอบและการปรับปรุงการเรียนการสอน การกระตุ้นความตั้งใจและสมาธิในการเรียนรู้ และการกระตุ้นการคิดวิเคราะห์และการเรียนรู้ด้วยตนเอง (6) ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับครอบครัวของเด็ก การสร้างช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้ปกครองตามหลักไตรสิกขา ควรเน้นการสื่อสารที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเคารพซึ่งกันและกัน การสื่อสารที่ตั้งใจและชัดเจนเพื่อให้เกิดการเข้าใจที่ตรงกันและการสร้างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กันต์ฌพัชญ์ อยู่อำไพ. (2560). การศึกษาปฐมวัยไทยและนานาอารยประเทศสมัยรัชกาลที่ 4. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 13(1), 78-87.
จงรักษ์ จันทร์ขาว. (2561). การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 9.
โชติกา เหมืองอุ่น. (2563). การบริหารจัดการศึกษาปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองโรงเรียนสบเปิงวิทยา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ครุคาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ทิพยาพัศ คลังแสง. (2565). การบริหารงานตามหลักพรหมวิหาร 4 ของผู้อำนวยการสถานศึกษาใน โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนครสวรรค์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
นเรศ อภัยลุน.(2568). การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาระดับปฐมวัยโรงเรียนเทศบาลตำบลงิม (คือเวียงจ่ำ) อำเภอปง จังหวัดพะเยา. แหล่งที่มา https://www.kroobannok.com/board_view.php?b_id=173676&bcat_id=14. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2568.
ประเวศ วะสี. (2560). ยุทธศาสตร์ทางปัญญาและการปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: วัฒนาพานิช.
พงศกร มงคลหมู่. (2564). รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562. (2562). ราชกิจจานุเบกษา หน้า 5 เล่ม 136 ตอนที่ 56 ก. (30 เมษายน 2562).
พระอธิการสกายแลบ ธมมธโร (นามโท). (2561). การบริหารสถานศึกษาตามหลักไตรสิกขาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาซัยภูมิ เขต 1. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิธิวัตร์ เทวาพิทักษ์.(2567). แนวทางการบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยสู่ความเป็นเลิศ สังกัดเทศบาลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 12(16), 1-10.
มณฑา วงษาไฮ. (2564). การบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. วารสารพุทธปรัชญาวิวัฒน์, 5(2), 12.
สิปปนนท์ เกตุทัต และคณะ. (2560). ความฝันของแผ่นดิน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ตะวันออก.
สุริยา คงมั่น. (2560). การจัดการศึกษาปฐมวัยกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการโรงเรียนสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กาญจนบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
อภิรติ คำศรีเมือง. (2563). แนวทางการบริหารจัดการการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนอนุบาลนานาชาติคิดส์เพิร์สท์. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกริก.
อำรุง จันทวานิช. (2561). แนวทางการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักนโยบายและแผนการศึกษา.
อุษารัตน์ สาบา. (2557). สภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดยะลา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.