แนวทางการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดชัยนาท ตามหลักปฏิสัมภิทา 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเพื่อศึกษาปัญหาการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาท และ 2) เพื่อเสนอแนวทางการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาท ตามหลักปฏิสัมภิทา 4 การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธีโดยมีการดำเนินการวิจัยเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหาการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาท เป็นการวิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท จังหวัดชัยนาท จำนวน 220 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามชนิดประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 2 ตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 เสนอแนวทางการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาท ตามหลักปฏิสัมภิทา 4 เป็นการวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง โดยมีผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 9 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัญหาการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาทในภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีปัญหาอันดับสูงสุดได้แก่ ด้านการรวบรวมข้อมูล รองลงมา ได้แก่ ด้านการตรวจสอบข้อมูลและด้านที่มีปัญหาอันดับต่ำสุด ได้แก่ ด้านการจัดเก็บข้อมูลและสารสนเทศ 2) แนวทางในการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชัยนาท ตามหลักปฏิสัมภิทา 4 ประกอบด้วย (1) ด้านการรวบรวมข้อมูล ควรมีโครงสร้างชัดเจน ใช้เทคโนโลยีช่วยลดข้อมูลซ้ำซ้อน มีระบบติดตามที่ทันสมัย และผู้บริหารสถานศึกษาควรสื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล (2) ด้านการตรวจสอบข้อมูล ควรมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน โดยผู้บริหารสถานศึกษาควรใช้ภาษาในการสื่อสารขั้นตอนและเกณฑ์ตรวจสอบที่เข้าใจง่าย พร้อมมีระบบแจ้งเตือนและคู่มือใช้งาน เพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง ทันสมัย และปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ (3) ด้านการประมวลผลข้อมูล ควรกำหนดดัชนีที่ชัดเจน พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็น โดยผู้บริหารสถานศึกษาควรสื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านการอบรม มีงบประมาณสนับสนุน และความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก (4) ด้านการนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ควรวิเคราะห์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม เข้าใจง่าย และน่าสนใจ โดยผู้บริหารสถานศึกษาใช้เทคโนโลยีและนโยบายที่สนับสนุนข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย พร้อมส่งเสริมความรู้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง (5) ด้านการจัดเก็บข้อมูลและสารสนเทศ ควรวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่อย่างชัดเจน มีระบบที่ปลอดภัย ทันสมัย โดยผู้บริหารสถานศึกษาสร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์ และส่งเสริมการอบรมเพื่อพัฒนาการจัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ สุทธิอาจ. (2556). สภาพและปัญหาการดำเนินงานจัดทำระบบสารสนเทศงานวิชาการโรงเรียนเอกชนในจังหวัดสกลนคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
กรมวิชาการ. (2544). แนวทางการจัดทำระบบสารสนเทศสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักทดสอบทางการศึกษา.
ชาติชาย ทนะขว้าง. (2558). การจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. วิทยาลัยเชียงราย.
ไชยโพธิ์ ร่มโพธิ์, พระครูภาวนาวุฒิบัณฑิต และพระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน. (2568). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลตามหลักปฏิสัมภิทา 4 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 6(1), 64–76.
ณัฐชริดา บัณฑุกากาญจน์. (2559). การศึกษาสภาพและปัญหาการจัดระบบสารสนเทศของโรงเรียนราชดําริ กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ดารุณี วีระชานนท์. (2549). สภาพปัญหาและรูปแบบการจัดระบบสารสนเทศงานวิชาการ โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สุวีริยาสาสน์.
พระภาวนามังคลาจารย์ (ธนมงคล นาประกอบ). (2566). การเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามหลักปฏิสัมภิทา 4 ของคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารนวัตกรรมการจัดการศึกษาและการวิจัย, 5(6), 1391-1402.
พระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน, ทองดี ศรีตระการ, เอกลักษณ์ เทพวิจิตร, ประวิทย์ ชัยสุข, อรุณรัตน์ วิไลรัตนกุล และพระครูสังฆรักษ์จักรกฤษณ์ ภูริปญฺโญ. (2567). การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการสื่อสารเชิงพุทธเพื่อรู้เท่าทันสื่อของเยาวชนไทย . วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 11(3), 1–14.
เพ็ญนภา สุขเสริม และเพียงแข ภูผายาง. (2567). แนวทางการบริหารระบบสารสนเทศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ยอดชาย กองทอง. (2556). การจัดระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ สังกัดสำนักงานเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2562). ปฏิสัมภิทา 4 ที่ฉายแสงแห่งพุทธปัญญา. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์.
สมทรง หนองนาว. (2550). การนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการระบบสารสนเทศของสถานศึกษาในอำเภอลานสัก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท. (2565). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2565 (SAR). รายงานวิจัย. กลุ่มงานส่งเสริมพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2558). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2562). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2542. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานนายกรัฐมนตรี.
สิริชัย ดีเลิศ. (2558). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุภัคกมล ชินวงค์. (2548). การศึกษาการจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อัจฉรัตน์ สงวนนาม. (2553). ปัญหาการจัดระบบข้อมูลและสารสนเทศทางการศึกษา กรณีศึกษา : สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรี. งานค้นคว้าอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.