มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ภายใต้สิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 และให้ได้มาซึ่งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ภายใต้สิทธิมนุษยชนผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี เริ่มต้นจากการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ด้วยการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วย บุคลากรทางเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ผู้นำชุมชน บุคลากรทางสาธารณสุข และนักวิชาการทางอาชญาวิทยา และกระบวนการยุติธรรม จำนวน 14 คน มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา และตามด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นักกฎหมายทนายความ ญาติผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ศาล ที่มาติดต่อราชการภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง จำนวน 328 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยคือแบบสอบถามที่สร้างขึ้นมาจากการวิเคราะห์เนื้อหาและสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกผสมผสานกับการทบทวนวรรณกรรม แนวคิด ทฤษฏี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ภายใต้สิทธิมนุษยชนผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทองซึ่งประกอบไปด้วย 1) สภาพปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อม 2) สภาพปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวของบุคคล 3) สภาพปัญหาที่เกิดจาก กรณีการรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ ออกไปศาลหรือไปรักษาพยาบาลตามอาการ 4) สภาพปัญหาที่เกิดจากการมาติดต่อราชการต่างๆภายในเรือนจำของบุคคลภายนอก และ 5) สภาพปัญหาที่เกิดจากการทำกิจกรรมต่างๆภายในเรือนจำ สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ภายใต้สิทธิมนุษยชนผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง จะประกอบไปด้วย 6 มาตรการ คือ 1) สภาพแวดล้อมความแออัดภายในเรือนจำ 2) พฤติกรรมส่วนตัวของบุคคล 3) การรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ ออกไปศาลหรือไปรักษาพยาบาลตามอาการ 4) การมาติดต่อราชการต่างๆภายในเรือนจำของบุคคลภายนอก 5) ด้านการทำกิจกรรมต่างๆภายในเรือนจำ และ 6) เรื่องอื่นๆ เช่น การปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อลดความแออัดภายในเรือนจำ กรณีผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นโรคประจำตัว ซึ่งเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตหากติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ผู้ต้องหา/ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังสูงวัยอายุ 60 ปี ขึ้นไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กฤษดา รัตนเจริญ. (2563). สภาพปัญหาในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. (2534). สิทธิมนุษยชนและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ณัฐยา จรรยาชัยเลิศ. (2548). หลักประกันสิทธิผู้ต้องขัง กรณีศึกษาสิทธิในการดำรงชีวิต. กรุงเทพมหานคร:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ประธาน วัฒนวาณิชย์. (2546). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาชญาวิทยา. กรุงเทพมหานคร: ประกายพรึก.
ปาณิตา กัณสุทธิ์. (2557). สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พิมพ์ชญา วุฒฉัตร์นนท์. (2563). การจัดการปัญหาและการควบคุมโรคระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 ของหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ไพวัลย์ สุนทรา. (2564). มาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID – 19 ในเรือนจำ.วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วชิรวิทย์ ลิมปวิทยากุล, มนัสนันท์ ลิมปวิทยากุล, วันชัย สีหะวงษ์ และชูชาติ บันลือ. (2564). พฤติกรรมการใช้หน้ากากอนามัย ล้างมือและการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ของประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี. รายงานวิจัย. สำนักงานป้องกันโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี.
ศศภัสส์ โกมล. (2563). รายงานผลการศึกษามาตรการด้านการบริหารจัดการองค์กรในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กองโรคไม่ติดต่อ ปี พ.ศ. 2563. กรุงเทพมหานคร: กรมควบคุมโรค.
BBC NEW ไทย. (2563). ไวรัสโคโรน่าในเรือนจำ. แหล่งที่มา https://www.bbc.com/thai/International สืบค้น 30 มี.ค. 2563.
Biscotto, P. & P. Starling. (2005). Evaluation of N95 respirator use as a tuberculosis control measure in a resource-limited setting. The International Journal of Tuberculosis and Lung Disease. (9)5. 545-549.
Green, L.W. & M.W. Kreuter. (1999). Health Promotion Planing: An Education and Ecological Approach. Mayfield Publishing Company.
Yamane, T. (1973). Statistics an introductory analysis. 3rd Ed. New York: Harper and Row.