ผลกระทบของการใช้ นโยบายการเงิน และนโยบายการคลังของรัฐบาลในการสนับสนุนแก่อุตสาหกรรม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
Main Article Content
Abstract
นโยบายการเงินการคลังของรัฐบาลถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจอันเป็นเป้าหมายในการบริหารงานที่สำคัญของรัฐบาล ซึ่งการนำเครื่องมือต่างๆมาใช้ และการเลือกอุตสาหกรรมที่เหมาะสมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจนับเป็นสิ่งสำคัญ อุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่เกือบทุกประเทศให้ความสนใจในการใช้มาตรการการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนี้เพราะอุตสาหกรรมนี้เป็นส่วนที่อยู่กลางน้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต้นน้ำ คือวัสดุก่อสร้าง และ งานรับเหมาก่อสร้าง และทั้งยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำได้แก่ วัสดุตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน เครื่องครัว รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้าหมายของสถาบันการเงินอีกด้วย การใช้นโยบายการคลังในเรื่องการลดภาษี การลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน การขอความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ การใช้มาตรการลดหย่อนทางภาษีสำหรับการจ่ายเงินซื้อที่อยู่อาศัย และการลดหย่อนให้แก่ดอกเบี้ยที่เกิดจากการซื้อที่อยู่อาศัย ล้วนเป็นมาตรการทางการเงิน และการคลังที่รัฐบาลได้เคยนำมาใช้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวในการซื้อที่อยู่อาศัย เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีรากฐานชีวิตที่มั่นคง เนื่องจากที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ วัตถุประสงค์ต่อมาคือช่วยให้ภาคธุรกิจเอกชนผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ได้ระบายสินค้าในสต็อคเพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินแก่ธุรกิจ และส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว้าจะเกิดผลกระทบในด้านหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลขาดรายได้ด้านภาษีและค่าธรรมเนียมที่จะนำมาเป็นงบประมาณบริหารประเทศบางส่วน แต่ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจย่อมได้ผลคุ้มกว่าที่เสียไป อย่างไรก็ตามรัฐต้องรักษาวินัยการเงิน การคลังให้มั่นคงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านความเสียหายต่อความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
THE IMPACTS OF MONETARY AND FISCAL POLICY OF THE GOVERNMENT TO SUPPORT THE REALESTATE DEVELOPMENT INDUSTRY IN THAILAND
Monetary and Fiscal policy of the government was used as a tool to stimulate the economics in order to stabilize the economy that was an important target of the government administration. Tools that were used and the appropriate industry that was chosen to stimulate the economy were such a critical. The real estate industry is a major industry that most countries are interested in using fiscal and monetary measures to stimulate the economy. It is because this industry is in the middle of the water which will have the effect on the upstream industry, construction materials and contracting for the construction. And also affect to the downstream industries such as home decoration materials, furniture, home furnishings, kitchenware, including credit by financial institutions goal. Using fiscal policy to reduce taxes or reduced transaction fees on the land, the cooperation in lending by commercial banks or incorporating the tax deduction for the payment of the purchase of housing and reduction of the interest on the purchase of housing are fiscal policy and the government has ever used. Which aims to give people the benefit of such measures on the purchase of housing. To encourage people to have a solid foundation for life since housing is one of the four factors. The objective is to help private sector operators of real estate products in stock to drain liquidity to businesses. And contribute to the economic stability of the country. Although the impact on household debt soared. Lack of government tax revenues and fees to be introduced as part of the government budget. But the effects of the stimulus will not be worth more than the bereaved. However, the state must maintain financial discipline Finance firm to avoid impact damage to the financial stability of the country