การศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากกัญชาในด้านต่าง ๆ ในประเทศไทย

บทคัดย่อ

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  1) ศึกษาประโยชน์จากกัญชาในด้านต่าง ๆ ในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาคุณลักษณะของข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ของการใช้กัญชา  งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยผู้จัดทำได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องที่สวนกัญชาบ้านไร่ชมเพลินและคลินิกแพทย์แผนไทย ณ แสนสุข  และมีการสนทนาผ่านสมาร์ทโฟน วิจัยเอกสาร และระบบสารสนเทศ โดยผู้ที่ให้ข้อมูลสำคัญ 3 คน ได้แก่ 1) นางสาวสุนันทา เอมดวง แพทย์แผนไทย  2) นางสาวกุลภัสร โภชนกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์  3) นายสุทธิ เจียวใช่เอ็ง เจ้าของผู้ประกอบกิจการบ้านไร่ชมเพลิน ผลการวิจัยพบว่า 1) นโยบายของรัฐเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากกัญชาในด้านต่าง ๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.1) รูปแบบในทางการแพทย์  โดยทางการแพทย์มีสองระบบย่อย ได้แก่ แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย และ 1.2) รูปแบบในเชิงมิติเศรษฐกิจ 2) คุณลักษณะข้อดีและข้อเสียของการใช้กัญชา ซึ่งการนำกัญชามาใช้ไม่ว่าจะในรูปแบบทางการแพทย์ และ เชิงเศรษฐกิจหรือทางนันทนาการ จึงมีความจำเป็นที่รัฐจะต้องสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชาให้ภาคประชาชนทุกคน โดยทางด้านการสร้างประโยชน์ต่อการใช้กัญชาทั้งในทางการแพทย์ เป็นการส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในการรักษาโรค และเมื่อหากในอนาคตประเทศไทยสามารถมีผลการวิจัยที่เป็นของประเทศไทยโดยเฉพาะทางการแพทย์อาจมีการยอมรับและนำกัญชามาประกอบในการรักษาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการลดการทรมานสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้าย เป็นต้น  ส่วนในทางเศรษฐกิจนั้นนับว่ากัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจมายาวนาน และเป็นพืชที่สามารถให้ประโยชน์แก่ผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการปลดล็อคกัญชาเสรี ดังนั้นรัฐควรมีการกำหนดวิธีการและแนวทางการป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดจากช่องโหว่ทางกฎหมาย ซึ่งกฎหมายกัญชาเสรีใน    ประเทศไทยยังไม่ครอบคลุม และ ไม่มีความชัดเจนมากพอจนอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้หากมีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อการสร้างผลกระทบให้กับภาคประชาชนทั่วไป ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกฎหมายที่ดีมากพอ เพื่อที่การทำงานทั้งระบบจะสามารถดำเนินไปในทิศทางที่เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศไทย  โดยสรุปแล้วกัญชาถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่มากับคนไทยและประเทศมาย่างยาวนับร้อยปี ในอดีตมีการนำกัญชาไปประกอบการรักษาผู้ป่วยแต่ต่อมาได้มีการจัดให้กัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติดจึงทำให้ประเทศไทย ไม่สามารถนำกัญชามาใช้ทั้งในทางการแพทย์และเศรษฐกิจได้อีกนับ 40 ปี เมื่อประเทศขาดความรู้ความเข้าใขเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกัญชาจึงเป็นการสร้างความหวาดระแวง วิตกกังวลต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการออกสื่อว่ากัญชามีแนวโน้มที่ผลกระทบจะไปในทางด้านลบมากกว่าด้านบวก  รัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจึงจำเป็นจะต้องร่วมกันจัดแบบแผนการปฏิบัติระบบกัญชาทั้งทางการแพทย์โดยเอาประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นที่ตั้ง และ ทางด้านเศรษฐกิจ ต้องมีการกำหนดขอบเขตการใช้กัญชาอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด