ค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมที่ส่งผลต่อส่วนประสมทางการตลาดของผู้บริโภค ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแพร่

Main Article Content

ภาศิริ เขตปิยรัตน์

บทคัดย่อ

                การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมที่ส่งผลต่อส่วนประสมทางการตลาดของผู้บริโภคในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้บริโภคที่เคยใช้ผ้าหม้อห้อม จำนวน 400 คน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและสมการโครงสร้างด้วยเทคนิค SEM


                ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็นด้านค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมและด้านส่วนประสมทางการตลาด ในระดับมาก 2) ผลการวิเคราะห์ด้วยสมการโครงสร้าง พบว่า ค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมมีความสัมพันธ์เชิงบวกทางตรงกับส่วนประสมทางการตลาด และโมเดลการวิเคราะห์มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจาก ค่าไคสแควร์ เท่ากับ 18.71 ที่องศาอิสระเท่ากับ 13 ค่า p-value เท่ากับ 0.132 ดัชนี GFI เท่ากับ 0.99  ค่า RMSEA เท่ากับ 0.032 ซึ่งอธิบายได้ว่า ปัจจัยค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมมีอิทธิพลเชิงบวกทางตรงต่อส่วนประสมทางการตลาดของผู้บริโภคในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลเท่ากับ 1.00

Article Details

How to Cite
เขตปิยรัตน์ ภ. (2018). ค่านิยมต่อการใช้ผ้าหม้อห้อมที่ส่งผลต่อส่วนประสมทางการตลาดของผู้บริโภค ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแพร่. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 11(2), 101–117. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jmscrru/article/view/122140
บท
บทความวิจัย
Author Biography

ภาศิริ เขตปิยรัตน์

บริหารธุรกิจดุษฏีบัณฑิต (บธ.ด.) สาขาการบริหารธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรสวร (2556), ปัจจุบันเป็น อาจารย์ประจำ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์

References

พนิตสุภา ธรรมประมวล. (2555). การตลาดเพื่อชุมชน. ลพบุรี : คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.

วิทวัส รุ่งเรืองผล. (2552). หลักการตลาด. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุนทรี โคมินและสนิท สมัครการ. (2522). ค่านิยมและระบบค่านิยมไทย. กรุงเทพฯ : สำนักวิจัยสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์.

Rokeach, M. (1968). Belief, Attitudes and Values : A Theory of Organization and Change. New York : Jossey - Bass.

ทีเอ็นเอ็นไทยแลนด์. 2558. วธ.หนุนปชช.สวมใส่ผ้าไทย1-2วัน/สัปดาห์. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2558https://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=64109&t=news

สำนักงานจังหวัดแพร่. กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด. (2558). แผนพัฒนาจังหวัดแพร่ (พ.ศ. 2557 - 2560).
สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2558. จาก https://www.phrae.go.th/file_data/plan57-60.pdf.

สำนักงานคลังจังหวัดแพร่. รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดแพร่. (2557). สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2558. จาก https://klang.cgd.go.th/pre/pr/cfo/mc56/mc1-2556.pdf.

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร. 2554. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2558จาก https://5301598-fashion.blogspot.com/2011/09/blog-post_24.html

สุภัคคณิศร รุ่งเรือง. (2553). การรับรู้ ทัศนคติ ค่านิยม และพฤติกรรมการซื้อสินค้าปลอมตรายี่ห้อระดับหรู ของผู้หญิงวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีศึกษาสินค้ากระเป๋าสตรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

อรอุมา เพียผ่าน. (2556). การรับรู้ข่าวสารทางการตลาดของผ้าไทย คุณค่าตราสินค้าของผ้าไทยภาพลักษณ์ส่วนบุคคล และค่านิยมต่อการใช้ผ้าไทย ที่ส่งผลต่อความตั้งใจใช้ผ้าไทยของผู้บริโภควัยทำงานตอนต้นในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ.