รูปแบบปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ในจังหวัดเชียงราย พะเยา และเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง รูปแบบปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ในจังหวัดเชียงราย พะเยา และเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) ความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และ 2) รูปแบบปัจจัยที่ส่งผลความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ โดยใช้วิธีวิจัยแบบผสม (Mixed Method) ในการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามความคิดเห็นเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างจำนวน 200 คน โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน และทดสอบสมมติฐานด้วยการคำนวณหาค่า P-value ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพนั้น ได้ใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เกษตรกรอย่างไม่เป็นทางการ จำนวน 15 คน ผลการวิจัยพบว่า 1. ความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ในจังหวัดเชียงราย พะเยา และเชียงใหม่ มีสถานภาพทางสังคมดีขึ้น มีสถานภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้น มีโอกาสขยายธุรกิจ และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมค้า อยู่ในระดับมากที่สุด 2. รูปแบบของปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ พบว่า ปัจจัยที่พยากรณ์ความสำเร็จของเกษตรกรมากที่สุด คือ การจัดการฟาร์ม รองลงมาตามลำดับ คือการยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการจัดการความรู้ ดังนั้นจากผลการศึกษาจึงนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สำคัญคือ เกษตรกรควรมีการจัดการฟาร์มที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และเหมาะสมกับพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิอินทรีย์ สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ด้านการจัดการฟาร์มให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องให้กับเกษตรกร
Article Details
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
References
กระทรวงพาณิชย์. (ม.ป.ป). เกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย (Thai Organic Agricultural). ค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2558, จาก
www.organic.moc.go.th.
ข่าวเกษตร. (2558). ความสำเร็จของกองทุนข้าวสุรินทร์. ค้นเมื่อ 25 เมษายน 2558, จาก https://www.ricefund.com/.
คลังข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร. (2553). ระบบเกษตรอินทรีย์มาตรฐาน. ค้นเมื่อ 12 เมษายน 2558, จาก https://www.
stou.ac.th/thai/grad_stdy/.
จิตฐิพร ศิริตานนท์. (2543). การเปรียบเทียบค่าความเชื่อมั่นและความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างของแบบวัดเจตคติต่อวิชาคอมพิวเตอร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์. (2556). เทคโนโลยีชาวบ้าน. ค้นเมื่อ 28 เมษายน 2558, จาก https://www. technologychaoban.com/
/news_detail.php?tnid= 621§ion.
ดำริ ถาวรมาศ. (2552). การใช้ปุ๋ยบำรุงดิน. ค้นเมื่อ 22 เมษายน 2558 จาก https://www. doa.go.th.
เทพ เพียมะลัง. (2556). การเข้าสู่มาตรฐานคุณภาพข้าวสูงของสมาชิกเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดเพชรบรูณ์. รายงานการ
วิจัย คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบรูณ์.
ธนรักษ์ เมฆขยาย. (2550). การจัดการฟาร์มเชิงธุรกิจ. เชียงใหม่: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ธงชัย สันติวงษ์. (2540). พฤติกรรมผู้บริโภคทางการตลาด. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
นิติพงษ์ ส่งศรีโรจน์. (2556). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างการจัดการองค์ความรู้ การมีอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียง
ความสามารถในการทำบัญชีครัวเรือน การจัดการฟาร์มข้าวอินทรีย์ ความสำเร็จของการจัดการฟาร์มข้าวอินทรีย์ และความมั่นคงในชีวิตของเกษตรกรในจังหวัดยโสธร. รายงานวิจัย คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญสม วราเอกศิริ. (2549). ระเบียบวิธีวิจัย. ภาควิชาส่งเสริมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
_________. (2539). ส่งเสริมการเกษตร: หลักและวิธีการ. พิมพ์เพิ่มเติม 2551: เชียงใหม่ ภาควิชาส่งเสริมการเกษตรมหาวิทยาลัยแม่โจ้.
บุศรา ลิ้มนิรันดร์กุล และพฤกษ์ ยิบมันตะสิริ. (2554). นวัตกรรมทางเกษตรที่สนับสนุนระบบผลิตข้าวอินทรีย์เกษตรกรรายย่อยภาคเหนือ. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเครือข่ายภาคเหนือ. ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ เกษตรและส่งเสริมเผยแพร่การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พันธ์จิตต์ พรประทานสมบัติ และศุภพร ไทยภักดี. (2552). รายงานการวิจัยเรื่อง สถานการณ์และอนาคตผักอินทรีย์ใน
ประเทศไทย. นครปฐม: ภาควิชาส่งเสริมและนิเทศศาสตร์เกษตร คณะเกษตร กำแพงแสนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วิจิตร อาวะกุล. (2535). หลักการส่งเสริมการเกษตร. กรุงเทพฯ: บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด.
สมศักดิ์ เพียบพร้อม. (2530). หลักและวิธีการจัดการธุรกิจฟาร์ม. กรุงเทพฯ: โอ.เอส พริ้นติ้งเฮ้าส์.
สุรพงษ์ โสธนะเสถียร. (2533). การสื่อสารกับสังคม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสรี พงศ์พิศ. (2531). คืนสู่รากเหง้า. กรุงเทพฯ: คุรุสภา.
สำราญ สะรุโณ. แนวคิดด้านการบริหารและการจัดการฟาร์มเพื่อความสำเร็จ. ค้นเมื่อ 5 มิถุนายน 2558, จาก https://www.
fao.org/Docrep/003/Y1860E/y1860e03.htm
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2554). สาระข้าวอินทรีย์. ค้นเมื่อ 6 เมษายน 2558, จาก https://www.
khaowdee.com/local_orgfarming.php.
Bales, R.F. (1950). Interaction Process Analysis: A Method for the Study of Small Group. New York. Addison-Wesley.
Bernald, M.B. (1960). Leadership, Psychology and Organization Behavior. New York: Hill Book.
Bloom, B.S. (1975). Taxonomy of Educational Objectives. New York: David Mckay Company.
Domjan, M. (1996). The Principles of Learning and Behavior Belmont. California: Thomson Wadsworth.
Herzberg, F., Bernard, M. , & Snyderman, B. B. (1967). The Motivation to Work. New York: John Wiley & Sons.
Kidd, J. R. (1973). How Adults Learn. New York : Association Press.
Klein, S.B. (1991). Learning. New York: McGraw –Hill.
Lovell, R. B. (1980). Adult Learning. New York: Halsted Press Wiley & Son.
McShane, S. L. and Von Glinow. (2003). M. A. Organizational Behavior. New York: McGraw-Hill.
Rogers, E.M. and Shoemaker, F.F. (1962). Communication of Innovations. New York: The Free Press.
Yamane, T. (1967). Elementary Sampling Theory. Englewood Cliff. New Jersey: Prentice-Hall.