การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนของหมู่บ้านกลองยาวแห่ง บ้านตลาด ตำบลบ้านหวาย อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของหมู่บ้านกลองยาวแห่งบ้านตลาด 2) เสนอแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเป็นการวิจัยแบบผสมผสานซึ่งใช้เทคนิคการวิจัยแบบ PAR (Participatory Action Research) และ AIC (Appreciation, Influence, Control) เครื่องมือในการวิจัยคือแบบสอบถามเก็บข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่ 158 คน และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเก็บข้อมูลกับผู้นำชุมชน 3 คน ผลการวิจัยพบว่าสภาพปัจจุบันของแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของหมู่บ้านกลองยาวแห่งบ้านตลาดตามเกณฑ์มาตรฐาน 5 ด้านในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม (3.37) ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนคือ กระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการท่องเที่ยว ในทุกๆขั้นตอนอันประกอบไปด้วย 1) การมีส่วนในการค้นหาปัญหาและสาเหตุของปัญหา 2) การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและวางแผน 3)การมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และ 4) การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ นอกจากนั้นประชาชนควรร่วมกันประชุมสัมมนาเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยวของชุมชน อันเป็นการประสานแนวคิดของคนในชุมชนให้เห็นเป็นภาพเดียวกัน และนำไปสู่การกำหนดเป็นเป้าหมาย และทิศทางของการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เกิดความยั่งยืนโดยให้สอดคล้องตามมาตรฐานทั้ง 5 ด้านขององค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
Downloads
Article Details
References
กาญจนา แสงลิ้มสุวรรณ และ ศรันยา แสงลิ้มสุวรรณ (2555). การท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน.วารสารนักบริหาร. 32(4),139-146.
ไกรฤกษ์ ปิ่นแก้ว. (2556). การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2562, จาก http://tourism-dan1.blogspot.com/
ชัชวาลย์ ทัตศิวัช. (2552). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR): มิติใหม่ของรูปแบบวิธีวิจัยเพื่อการพัฒนาชุมชนระดับท้องถิ่น. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.
ทินกร น้อยตำแย. (2561). การพัฒนางานออนซอนกลองยาวชาววาปีของดีพื้นบ้านจังหวัดมหาสารคาม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 37(3), 28-39.
ธวัชชัย งามสันติวงษ์. (2542). Spss for windows : หลักการและวิธีใช้คอมพิวเตอร์ในงานสถิติเพื่อการวิจัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ 21 เซ็นจูรี่.
นราศรี ไววนิชกุล และชูศักดิ์ อุดมศรี.(2552). ระเบียบวิธีวิจัยธุรกิจ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2542). การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน.กรุงเทพฯ: บริษัทเพรส แอนด์ ดีไซน์ จำกัด.
ประภาส อินทนปสาธน์. (2546). การบริหารจัดการการท่องเที่ยวแบบชุมชนมีส่วนร่วม กรณีศึกษาหมู่บ้านโคกโก่ง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์. (รายงานการศึกษาอิสระปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สาขาวิชาการบริหารพัฒนา.
ประชาสรรค์ แสนภักดี. 2546). เทคนิคกระบวนการวางแผนแบบมีส่วนร่วม. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2561, จาก http://www.prachasan.com/mindmapknowledge/aic.html
พจนา สวนศรี. (2546). คู่มือการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน. กรุงเทพฯ: โครงการท่องเที่ยวเพื่อชีวิตและธรรมชาติ.
เมษ์ธาวิน พลโยธี และคณะ. (2552). ศักยภาพของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบมีส่วนร่วม: กรณีศึกษาชุมชนบ้านดอนมัน ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ยรรยง กางการ. (2544). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของหมู่บ้านรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
วีระพล ทองมา และ ประเจต อำนาจ. (2547). ผลที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวต่อประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: รายงานผลการวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ศูนย์ประสานงานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน. (2555). การท่องเที่ยวโดยชุมชน. ค้นเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2562, จาก http://cbtnetwork.org/th/?page_id=45
สิทธิศักดิ์ จำปาแดง. (2561). กลองยาวในวิถีวัฒนธรรมของชาวอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.10(1), 91-109.
สุภางค์ จันทวานิช. (2531). การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุมิตรา ทองพูล. (2554). วัฒนธรรมกลองยาว : การแข่งขัน การอนุรักษ์ และพัฒนาเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัย มหาสารคาม.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2560). ข้อมูลสถิติจากการสำรวจสุขภาพจิต (ความสุข) คนไทย. สิบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2561 จาก http://service.nso.go.th/nso/web/survey/surpop2-4-10.html
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน)(อพท.). (2558). คู่มือเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน. สืบค้นเมื่อ13 มิถุนายน 2561.
จาก http://www.dasta.or.th/dastaarea7/attachments/article/228/SAR.pdf
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหวาย. (2562). ประชากรตำบลบ้านหวาย.สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2562, จากhttp://www.banwhay.net/people.html
อุษาวดี พูลพิพัฒน์. (2545). การรับรู้ต่อองค์ประกอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรท่องเที่ยวขอ’ชุมชน กรณีศึกษา ชุมชนปวนพุ กิ่งอำเภอหนองหิน จังหวัดเลย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Kasperson, R. E. & Breitbal. (1985). Rural Development Participation Conceptual Measures for Project Feign. Carmell University: Rural Development Committee.
Richards, G. (1999). Culture, Cultural Tourism and Identity. Tilburg University, the Netherlands.
World Tourism Organization (UNWTO). (2017). Tourism and Culture. Retrieved from http://ethics.unwto.org/content/tourism-and-culture