รูปแบบการบริหารการพัฒนาการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์

บทคัดย่อ

การวิจัยในบทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุของการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์ 2) เพื่อศึกษากลุ่มอาจารย์ที่ควรได้รับการพัฒนาก่อนและปัจจัยส่งเสริม และ 3) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารการพัฒนาการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ของอาจารย์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70/75 การวิจัยเป็นแบบผสานด้วยวิธีเชิงปริมาณเสริมด้วยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์ จำนวน 472 คน โดยการเลือกแบบแบ่งชั้นกำหนดสัดส่วน เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบวัดมาตรประเมินรวมค่า (6 ระดับ) 11 แบบวัด รวม 102 ข้อ มีค่า IOC ตั้งแต่ .60-1.00 ค่าอำนาจจำแนก (r-Item-total Correlation) รายข้อ ตั้งแต่ .23 ถึง .89 ค่าความเที่ยง (a) ตั้งแต่ .67 ถึง .91 สถิติที่ใช้เพื่อตรวจสอบสมมติฐาน ประกอบด้วย สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ถดถอยพหุคุณ และการวิเคราะห์เส้นทางอิทธิพลโดยวิเคราะห์โมเดลแบบสมการเชิงโครงสร้าง

ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ได้รับการยืนยันจากข้อมูลเชิงประจักษ์ ( =.84)  2) กลุ่มที่ควรได้รับการพัฒนาการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ก่อน คือ อาจารย์ที่สังกัดกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพ ปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญอย่างน้อย 3 ประการ และ 3) รูปแบบการบริหารการพัฒนาการทำงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกับการทำงานอย่างริเริ่มสร้างสรรค์ของอาจารย์ที่สร้างขึ้นตามหลักการบริหาร PDCA กับการจัดการทรัพยากรในการบริหาร 4Ms ด้วยโครงการพัฒนาการทำงานของอาจารย์จากฝ่ายอำนวยการ และฝ่ายพัฒนา/ฝึกอบรม เมื่อประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิรายด้านได้ค่าเฉลี่ยร้อยละ 89.29-95.71 และโดยภาพรวมได้ร้อยละ 92.41 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 70/75 ผลการวิจัยนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการทำงาน และ นักวิชาการที่สนใจ