ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ของครัวเรือนชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เครื่องมือ ที่ใช้เป็นแบบสอบถามเชิงโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ทดสอบความสัมพันธ์ ได้แก่ค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบพอยท์ไบซีเรียล ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้นอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติมี 6 ปัจจัย ได้แก่ 1) จำนวนสมาชิกในครัวเรือน 2) อาชีพ ที่เป็นแหล่งที่มาของรายได้หลัก 3) รายได้ทั้งหมดของครัวเรือน 4) ความเพียงพอ ของรายได้ 5) การลิดรอนสิทธิที่ดิน และ 6) คดีฟ้องร้องเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ มี 6 ปัจจัย ได้แก่ 1) การทำประมงในระบบลูกน้องเถ้าแก่ 2) ลูกจ้าง ในธุรกิจท่องเที่ยว 3) รายได้ทั้งหมดของครัวเรือน 4) น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 5) ขยะมูลฝอย และ 6) การลิดรอน สิทธิที่ดิน
Article Details
ข้อความและความคิดเห็นที่แสดงในบทความ เป็นแนวคิดของผู้เขียน มิใช่ความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ และคณะผู้จัดทำแต่อย่างใด
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิเทศศึกษา ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิเทศศึกษา หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิเทศศึกษา ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
เฉลียว ฤกษ์รุจิพิมล และคณะ. (2548). มนุษย์กับสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 6.
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดาฤนัย จรูญทอง. (2550). ประวัติศาสตร์ชุมชนอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ
จังหวัดสตูล ระหว่างปี พ.ศ. 2493-2549. การค้นคว้าอิสระปริญญาอักษร
ศาสตรมหาบัณฑิต คณะบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
หน่วยพิพักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตา. (2554).รายงานผลการสำรวจจำนวน
ประชากรชาวเลในพื้นที่ เกาะอาดัง. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา.
ฝ่ายจัดการทรัพยากร ธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ.
สำนักงานเทศบาลอำเภอเมืองสตูล. (2556). แบบรายงานบัญชีคนในบ้าน
ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล. เทศบาลอำเภอเมืองสตูล.
Faulkner, B. and C. Tideswell. 1997. A framework for monitoring
community impacts of tourism. Journal of Sustainable Tourism.
Vol.5, pp. 3-28.
Granbom, A. (2005). Urak Lawoi. Working Paper in Social
Anthropology. Department of Sociology. Lund University:
Sweden.
Hogan, D. (1972). Men of the sea: coastal tribes of south Thailand’s west coast. Journey of the Siam society, Vol.60, pp. 205-235.
Howell, D.C. (2004). Fundamental Statistics for the Behavioral
Sciences, 5th. Duxbury Press. Pacific Grove.
McElroy, J. and Olazarri, P. (1997). A tourism penetration index for
small island destinations. Bank of of Valletta Review. Vol.16,
pp. 1-10.
Monterrubio, J. C., Fernandez, M. J., and Gullete, G. S. (2011).
Tourism and social change. A qualitative study on community
perceptions in Huatulco, Mexico. Cuadernos de Tourismo.
Vol.28, pp. 255-256.
Prapruit, P. and B., Somboonsuke. (2014). Impact of tourism on
livelihood of Urak Lawoi in Lipe island. The PSU-USM-NSTRU
International Conference on Arts and Sciences 2014. “Arts and
Sciences Research 2014: Spot of Change for Tomorrow” ; 2-3
June 2014; Songkhla, Thailand.
Regina, S. and M. Janet, 2008. Tourism in small island states: from
vulnerability to strengths. Journal of Sustainable Tourism.
Vol.16, pp.491-510.
Wongbusarakum, S. (2007). The Urak Lawoi and the Complexity of
Sustainable Resource Use: the Adang Archipelago, Andaman
Sea, Thailand. Ph.D Dissertation. University of Hawai.