พุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปายะ 4 กับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข 3) นำเสนอพุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 321 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านสะอาด รองลงมาได้แก่ ด้านสะดวก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านสะสาง 2) ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปายะ 4 กับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด มีความสัมพันธ์กันเชิงบวกอยู่ในระดับปานกลาง (R=0.761**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3) พุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด ตามหลักสัปปายะ 4 ได้แก่ (1) อาวาสสัปปายะ มีการแบ่งเขตพื้นที่อย่างชัดเจน ให้ความสำคัญกับความสะอาด (2) อาหารสัปปายะ มีการดูแลแหล่งอาหารให้มีความเพียงพอ เหมาะสมแก่พระสงฆ์และประชาชน (3) ธรรมสัปปายะ จัดให้มีสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เหมาะสม เงียบสงบ (4) ปุคคลสัปปายะ ส่งเสริมให้บุคคลในชุมชนมีจิตอาสา มีเมตตา และมีจิตสาธารณะ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมการศาสนา. แนวทางการพัฒนาวัดประชารัฐสร้างสุข. กรุงเทพฯ : กระทรวงวัฒนธรรม. 2564.
เทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด, จำนวนประชากรของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ปี ๒๕๖๗, [ออนไลน์], แหล่งที่มา: https://www.nongbuatakiat.go.th/data. php?content_id=6 [๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๗].
บรรจง พุทาพันธ์. “การขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐสร้างสุขของคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี”. วารสารนวัตกรรมท้องถิ่น. 7(2) (ตุลาคม-ธันวาคม). 2563 : 42-59.
พระครูสิริธรรมบัณฑิต และคณะ. “รูปแบบการพัฒนาวัดด้วยวิถี 5ส โครงการวัด ประชา รัฐสร้างสุข ของวัดมิ่งเมืองมูล”. วารสารวิจยวิชาการ. 4(1) (มกราคม- มีนาคม) 2564 : 23-36.
พระมหาเสงี่ยม (สุวโจ มณีวงษ์) และคณะ. “รูปแบบการพัฒนาวัดสร้างสุขด้วยสัปปายะตามแนวพุทธจิตวิทยา”. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 6(6)(มิถุนายน) 2562 : 2821-2841.
พระมานิตย์ โชติญฺาโณ (มากเพชร) และคณะ. “การใช้หลักอปริหานิยธรรมในการพัฒนาวัด ประชา รัฐ สร้างสุขในตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี”. วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. 2(3) (พฤษภาคม- มิถุนายน) 2565 : 1-13.
พระวีระศักดิ์ ชยธมฺโม (สุวรรณวงศ์). “แนวทางการจัดการวัดสันติสุขตามหลักสัปปายะ 7 : กรณีศึกษาวัดธารน้ำไหล จังหวัดสุราษฎร์ธานี”. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร. 3(2) (กันยายน – ธันวาคม) 2562 : 98 - 114.
พระอุดมปัญญาภรณ์ สุณหวัฒโน. “การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ตามพันธกิจ วัด ประชา รัฐ ในโครงการสร้างสุขเขตพื้นที่บริหารงานคณะสงฆ์ภาค 10”. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น. 10(4) (ตุลาคม-ธันวาคม) 2566 : 223-237.
พีรพงษ์ ตลับทอง. “การขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐสร้างสุขของคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐ ประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 2564.
เพ็ญประภา บุตรละ และคณะ. “ทักษะที่จำเป็นสำหรับสมาชิกทีมพัฒนาในสกรัม”. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศ. 11(2) (กันยายน) 2558 : 34-41.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. แนวทางการพัฒนาวัดประชารัฐสร้างสุข. กรุงเทพฯ : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. 2564.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3rd ed.). New York : Harper & Row.