รูปแบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งและการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งกับการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3) นำเสนอรูปแบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนตำบลหินเหล็กไฟ จำนวน 391 คน การสุ่มแบบง่าย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่าสัมประสิทธิ์ของสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และวิธีวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 รูป/คน โดยเลือกแบบเจาะจงจากผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล เจ้าพนักงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และเจ้าคณะตำบลหินเหล็กไฟ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วสรุปเป็นข้อความเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ โดยรวมอยู่ระดับมาก 2) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งกับการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ โดยรวมในระดับสูง (R=0.752) มีความสัมพันธ์กันทางบวก โดยจำแนกเป็นรายด้านอยู่ระหว่าง อยู่ระหว่าง 0.490 ถึง 0.780 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 3) รูปแบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหินเหล็กไฟ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผู้วิจัยนำเสนอรูปแบบที่เรียกว่า หินเหล็กไฟโมเดล (Hin Lek Fai Model) ประกอบด้วย 1) ด้านส่งเสริมสวัสดิการชุมชน 2) ด้านการส่งเสริมอาชีพและรายได้ 3) ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน 4) ด้านการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 5) ด้านส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และ 6) ด้านภาวะผู้นำขององค์การบริหารส่วนตำบล
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กมลศักดิ์ วงศ์ศรีแก้ว จิระพงค์ เรืองกุน และสายใจ ชุนประเสริฐ. (2559). กลยุทธ์การพัฒนาชุมชนเข้มแข็งสู่ชุมชนยั่งยืน: กรณีศึกษาชุมชนพูนบำเพ็ญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
โกวิทย์ พวงงาม. (2550). การประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชนประจำปี 2550. กรุงเทพฯ : บริษัทมิสเตอร์ก๊อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด.
______. (2553). การจัดการตนเองของชุมชนและท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : บพิธการพิมพ์จำกัด.
ขวัญกมล คอนขวา และคณะ. (2555). การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. รายงานการวิจัยสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
ชาติชาย ณ เชียงใหม่. (2543). การบริหารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในหน่วยงานให้ได้ผล. กรุงเทพฯ : รัฐสภาสาร.
โชติ บดีรัฐ และ ยุวดี พ่วงรอด. (2562). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งแบบบูรณาการในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก. วารสารคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปีที่ 21 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – มิถุนายน 2562.
ธนากร สังเขป. (2556). การพัฒนาที่ยั่งยืน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พัชนี ตูเล๊ะ. (2561) .ปัจจัยที่ส่งเสริมและพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดนราธิวาส. Veridian E-Journal, Silpakorn University.ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ และศิลปะปีที่ 11 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม -สิงหาคม 2561.
ไพศาล วรคำ. (2552). การวิจัยทางการศึกษา. มหาสารคาม : คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วิทยา จันทร์แดง และจำนง อดิวัฒนสิทธิ์.(2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการชุมชน เข้มแข็งตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเขตจังหวัดภาคกลางตอนบน. สักทอง: วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 18(2): 23-40.
Taro Yamane. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd ed. New York. Harper and Row Publications.