การวิเคราะห์เส้นทางความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันของลูกค้าในธุรกิจโรงพยาบาลภาคเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันของลูกค้า วิเคราะห์เส้นทางความสัมพันธ์ ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันของลูกค้า และตรวจสอบความสอดคล้องของเส้นทางความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพัน
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเป็นวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้ป่วยที่ใช้บริการโรงพยาบาลภาคเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 600 คน โดยแบ่งตามระดับขนาดของจำนวนเตียงได้แก่ จำนวน 101-250 เตียง และจำนวนมากกว่า 250 เตียงขึ้นไป โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น และ การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วน 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยสถิติเชิงพรรณนาของค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแต่ละตัวแปร สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์เส้นทาง
ผลการวิจัยพบว่า ความไว้วางใจมีขนาดอิทธิพลมากที่สุด คือ 0.668 รองลงมาได้แก่ คุณค่าตราสินค้า คุณค่าสัมพันธภาพ และ คุณค่าความคุ้มค่า โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.558, 0.509 และ 0.323 ตามลำดับ ส่วนการวิเคราะห์เส้นทางพบว่า คุณค่าสัมพันธภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณค่าความคุ้มค่า และคุณค่าตราสินค้าโดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ0.738 และ 0.529 และมีความสัมพันธ์ทางลบกับความไว้วางใจและความผูกพันของลูกค้าโดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ- 0.031 และ - 0.021 ส่วนคุณค่าความคุ้มค่ามีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณค่าตราสินค้าและความไว้วางใจโดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.173 และ 0.203 นอกจากนี้คุณค่าความคุ้มค่า คุณค่าตราสินค้า และความไว้วางใจ มีความสัมพันธ์กันทางบวกกับความผูกพัน โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.090, 0.128 และ 0.668 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จากสมการพยากรณ์ที่ดีที่สุดพบว่าตัวแปรพยากรณ์ที่ดีที่สุดพบว่า ตัวแปรพยากรณ์ของปัจจัยด้านคุณค่าความคุ้มค่า (X2) คุณค่าตราสินค้า (X3) และความไว้วางใจของลูกค้า (X4) สามารถพยากรณ์ความผูกพันของลูกค้า (Y) ได้ร้อยละ 68 นอกจากนี้จากการตรวจสอบความสอดคล้องของเส้นทางความสัมพันธ์ (Path analysis) ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันของลูกค้ากับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่าโมเดลความสัมพันธ์ตามสมมติฐานมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์
*นักศึกษา สาขาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี 10170 ภายใต้การควบคุมของ ดร. กฤษฎาภรณ์ รุจิธำรงกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. บุรพร กำบุญ และรองศาสตราจารย์ ศิริพร สัจจานันท์
Corresponding author: atchara.urt@gmail.com
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน. ฉบับที่ 390.
ชาย โพธิสิตา (2556). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพมฯ: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด. (มหาชน).
วิจัยกรุงศรี (2563). แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรมปี 2563-65 ใน ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 1 มกราคม 2563 จาก http://index.php/news-and-announce-all/news-all/180-2019-06-07-09-28-51.html. 1229-1235. 2562/T26/T26_201903.pdf
ปรียาวดี ผลอเนก. (2558). อิทธิพลของการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อความจงรักภักดีของลูกค้าที่มาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตภาคตะวันออก. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 14 (2). 695-702.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, (2563). โรงพยาบาลเอกชน ปี’64 ... แม้รายได้กลับมาฟื้นตัว แต่ยังเป็นปีที่ท้าทายและแข่งขันรุนแรงขึ้น, กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3167.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2562). อว. สวทช. และหน่วยงานเครือข่าย จัดประชุมคิกออฟ ‘แผนจีโนมิกส์ประเทศไทย’ หารือแนวทางวิจัยและประยุกต์ใช้แพทย์จีโนมิกส์ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทยที่ดี. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 7 มิถุนายน 2562 จากhttps://sccl.mhesi.go.th
Alrubaiee, L., and Alkaa'ida, F., (2011). The mediating effect of patient satisfaction in the patients' perceptions of healthcare quality – patient trust relationship. International Journal of Marketing Studies, 3 (1). 103-127.
Brakus, J. J., Schmitt, B. H., & Zarantonello, L. (2009). Brand experience: what is it? How is it
measured? Does it affect loyalty? Journal of marketing, 73 (3). 52-68.
Gupta, A., and Sahu, G.P. (2015). Exploring relationship marketing dimensions and their effect on customer loyalty – a study of Indian mobile telecom market. International Journal Business Innovation and Research, 9 (4). 375-395.
Hatta, P.I.H. (2019). Analysis of Service Quality, Image, Promotion, Trust and Customer Loyalty. IOSR Journal of Business and Management (IOSR-JBM), 21 (1). 1-7.
Hunt, S. D., Arnett, D. B., & Madhavaram, S. (2006). The explanatory foundations of relationship marketing theory. Journal of business & industrial marketing, 21 (2). 72-87.
Kazemi, A., Abadi, H.R.D. and Kabiry, N. (2013). Analyzing the effect of customer equity on repurchase intentions. International Journal of Academic Research in Business and Social Sciences, 3 (6).78-92.
Matti, Minna, Karjaluoto, Heikki, Jayawardhena, Chanaka, Leppäniemi and Pihlström (2012). How value and trust influence loyalty in wireless telecommunications industry. Telecommunications Policy– Elsevier,36 (8). 636-649.
Naumann, K., and Bowden, J. (2015). Exploring the process of customer engagement, self-brand connections and loyalty. Problems and perspectives in management, 13 (1). 56-66.
Ramli, A. H., & Sjahruddin, H. (2015). Building patient loyalty in healthcare services. International Review of Management and Business Research, 4(2), 391-401.
Shabbir, S., Kaufmann, H.R., Ahmad, I., and Qureshi, I.M. (2010). Cause related marketing self-brand connections and loyalty. Problems and Perspectives in Management,13 (1), 56-66.
Shriedeh ,F.B., and Ghani, N.H.A. (2016). Innovation’s effect on brand equity: Insights from medical tourists. Journal of Asian Business Strategy, 6(8), 176-184.
Wu, S. I., & Li, P. C. (2011). The relationships between CRM, RQ, and CLV based on different hotel preferences. International Journal of Hospitality Management, 30(2), 262-271.