การเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งของธุรกิจซื้อมาขายไปในประเทศไทย

บทคัดย่อ

                การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการขนส่งของการผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจซื้อมาขายไป 2) ศึกษาสภาพแวดล้อม ปัญหา อุปสรรคของผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจซื้อมาขายไป และ 3) ศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งของผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจซื้อมาขายไป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจซื้อมาขายไป ที่มีสถานประกอบการอยู่ใน 4 ภาค ของประเทศไทย จำนวน 400 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบโควตา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความตรงเชิงด้านเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามอยู่ระหว่าง 0.70-0.90 วิเคราะห์ข้อมูลโดย การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธี LSD และการวิเคราะห์การถดถอยพหุด้วยวิธี Enter ผลการวิจัยพบว่า
               1. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการขนส่งของการผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจ ซื้อมาขายไป ได้แก่ จำนวนบุคลากรและระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจนั้น พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพนักงานในองค์กร จำนวนน้อยกว่า 11 คน และมีระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ น้อยกว่า 3 ปี
               2. สภาพแวดล้อม ปัญหา อุปสรรคของผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจซื้อมาขายไป พบว่า สภาพแวดล้อมการให้บริการขนส่งสินค้า ประกอบด้วย ความรู้ด้านการขนส่งและมุมมองด้านการพัฒนาการขนส่ง ด้านมาตรฐานการบริการ มีผลต่อการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด รองลงมาคือ การขนส่งต้องไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม มีการวางแผน การจัดระบบงาน และการควบคุมงานทุกครั้งที่ ขนย้ายสินค้าจากสถานที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง และกลุ่มตัวอย่างได้ตอบแบบสอบถามความคิดเห็นด้านประสิทธิภาพการขนส่ง ทำให้ทราบปัญหา อุปสรรคของผู้ประกอบการขนส่งที่ให้บริการขนส่งสินค้าในธุรกิจ ซื้อมาขายไป พบว่า จำนวนลูกค้า จำนวนรถยนต์ เครื่องมือและเทคโนโลยี ต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนาการขนส่งมีผลต่อประสิทธิภาพการขนส่งอยู่ในระดับมาก
               3. แนวทางพัฒนาประสิทธิภาพการขนส่ง เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการขนส่งให้ดีขึ้น ควรให้ความสำคัญกับเรื่องจุดคุ้มทุนในการดำเนินงาน การคำนึงถึงปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการคมนาคม การสร้างความร่วมมือระบบขนถ่ายและการสร้างสถานีขนส่งสินค้า ควรใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการขนส่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

* ศาสตราจารย์ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 10240
Corresponding author : jarutirasarn@hotmail.com