ผลการทำบัญชีครัวเรือนที่มีต่อรายจ่ายตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนต้นแบบโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ในเขตชนบท

บทคัดย่อ

                การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีครัวเรือนของคนในชุมชนต้นแบบของโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์ ก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ 2) ศึกษาทัศนคติ เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือน ที่มีต่อรายจ่ายตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนต้นแบบโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนในเขตชนบท และ 3) ศึกษาผลของการยอมรับปฏิบัติ เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือน ที่มีต่อรายจ่ายตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนต้นแบบโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนในเขตชนบท
                กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 74 ครัวเรือน ผู้ให้ข้อมูลคือ หัวหน้าครัวเรือน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม แบบสังเกต สมุดลงบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายแบบประเมินสมุดบันทึกบัญชีครัวเรือน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และการทดสอบค่าที
                ผลการวิจัยพบว่า
                1) ผลการเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีครัวเรือนของคนในชุมชนต้นแบบ ของโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์ พบว่าด้านความรู้ความเข้าใจของคนในชุมชนต้นแบบ มีคะแนนเฉลี่ยหลังการทดสอบสูงกว่าก่อนการทดสอบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
                2) ทัศนคติ เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือน พบว่า ค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 4.55
ในเรื่องชุมชนของท่านมีการส่งเสริมให้ได้รับการฝึกอบรมการจัดทำบัญชีครัวเรือน รองลงมามี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำบัญชีครัวเรือน เข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกอบรม/ให้ความรู้เรื่องการจัดทำบัญชีครัวเรือนในชุมชน ส่วนทัศนคติที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดเท่ากับ 2.40 ขั้นตอนในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมีความยุ่งยาก
                3) ผลของการยอมรับปฏิบัติ ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมที่ดี อยู่ในระดับสูงซึ่งครัวเรือนที่นำส่งสมุดบัญชีครัวเรือนครบตามเกณฑ์กำหนด คิดเป็นร้อยละ 86.49 การทำบัญชีครัวเรือน
ที่มีต่อรายจ่ายตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนต้นแบบโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนในเขตชนบท โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ครัวเรือนมีการกำหนดเป้าหมายเพื่อลดรายจ่าย คิดเป็นร้อยละ 37.84 โดยการดำเนินการลดรายจ่ายประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ คิดเป็นร้อยละ 38.01 เป้าหมายเพื่อละรายจ่าย คิดเป็นร้อยละ 31.08 ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 30.41 และเป้าหมาย เพื่อเลิกรายจ่าย คิดเป็นร้อยละ 27.70 ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 28.21

* อาจารย์ประจำสาขาวิชาการเงินและการธนาคาร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
** ดร.ภัทรภร ปุยสุวรรณ สาขาวิชาธุรกิจศึกษา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์ปิยะดา คัมภิรานนท์ สาขาวิชาการเงินและการธนาคาร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์ธนาธิป พัวพรพงษ์ สาขาวิชาการเงินและการธนาคาร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์สมใจ เภาด้วง สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
ดร.ปาริชาติ ขำเรือง สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์ทรงศักดิ์ บุญสุวรรณ์ สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์พิมพ์นารา พิบูลจิระกานต์ สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์ไพโรจน์ ร่มบารมี สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์บุษบงค์ สุวรรณะ สาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
อาจารย์กิตติพงษ์ ภู่พัฒน์วิบูลย์ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
ดร.พงศ์สฎา เฉลิมกลิ่น สาขาวิชาการจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 73000
ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์
Corresponding author: pattaraporn@webmail.npru.ac.th