แนวทางพัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์

Main Article Content

ธมนวรรณ ลาไชย

บทคัดย่อ

                การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ  1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์  2) เพื่อศึกษาระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์  3) เพื่อเปรียบเทียบระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  4) เพื่อให้ได้แนวทางพัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์  โดยเป็นการวิจัยแบบผสม (mixed methods research) ประกอบด้วย การวิจัยเชิงปริมาณเป็นการเก็บข้อมูลจากนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 400 คน โดยการใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ระดับลึก (in-depth interviews) จากผู้ให้ข้อมูลหลัก
                ผลการวิจัยพบว่า
                1. พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ระหว่าง 15,001-25,000 บาท มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวมีจุดประสงค์ในการเดินทาง คือ เพื่อชมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีวิธีการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 2 ครั้ง ซึ่งเดินทางพร้อมกลุ่มเพื่อนมักจะเดินทางในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมีการพักค้างคืน 1 คืน ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอยู่ระหว่าง 1,001-5,000 บาท กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทำระหว่างการเดินทาง พบว่า การถ่ายรูปเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทำระหว่างการเดินทางมากที่สุด สินค้าที่ระลึกที่นักท่องเที่ยวซื้อส่วนใหญ่เป็นสินค้าแปรรูป เช่น มะขามแปรรูปหรือหัวผักกาดดองปลอดสาร และสื่อที่ทำให้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุด คือ การแนะนำแบบปากต่อปากจากกลุ่มญาติหรือกลุ่มเพื่อน
                2. ระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ส่วนประสมการตลาดด้านผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาด้านกระบวนการ ด้านราคา ด้านสิ่งแวดล้อมกายภาพ ด้านการจัดจำหน่าย ด้านบุคลากรและด้านการส่งเสริมการตลาด ตามลำดับ
                3. ผลการเปรียบเทียบระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศและถิ่นที่อยู่อาศัยของนักท่องเที่ยวต่างกันมีระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ไม่แตกต่างกัน แต่นักท่องเที่ยวที่มีอายุ อาชีพและรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีระดับส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติแตกต่างกัน   อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
                4. แนวทางพัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ ในแต่ละด้านมีดังนี้ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ทันสมัยให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว  2) ด้านราคาจะต้องควบคุมราคาให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากจนเกินไปหรือมีการกำหนดราคาให้มีหลายระดับเพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยว  3) ด้านการจัดจำหน่ายนั้นควรเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอยู่เดิมแล้วให้มีมากขึ้น เช่น การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางอินเทอร์เนต เว็บไซต์หรือจัดทำโทรศัพท์สายด่วนไว้บริการนักท่องเที่ยว  4) ด้านการส่งเสริมการตลาดควรมีการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว  5) ด้านบุคลากรควรจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและมารยาท รวมถึงการพัฒนาทักษะการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยว  6) ด้านกระบวนการควรจัดพนักงานที่มีความรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวตามจุดบริการต่าง ๆ ให้เพียงพอ 7) ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพควรปรับปรุงภูมิทัศน์ตามแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสวยงามและน่าสนใจ โดยควรคำนึงถึงความสะดวก ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว รวมถึงการจัดทำแผนที่หรือป้ายสัญลักษณ์ตามจุดบริการต่างๆ ให้มีความชัดเจน


* วิทยานิพนธ์หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ ดร.ดารินทร์ โพธิ์ตั้งธรรม และ ดร.อริสรา ธานีรณานนท์
Corresponding author : thamowan1234@gmail.com

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ลาไชย ธ. (2019). แนวทางพัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม, 6(1), 183–196. https://doi.org/10.14456/jmsnpru.2019.36
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2559). สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศทั่วราชอาณาจักร ปี พ.ศ.2559. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2559, จาก https://www.mots.go.th/more_news.php?cid=435&filename=index.

พัชรดา มงคลนวคุณ. (2556). ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อตลาดนํ้าตลิ่งชัน. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการการตลาด บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม.

ภาวิณี กาญจนาภา. (2559). พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.

เมืองต้องห้ามพลาดกับ 12 เมืองน่าเที่ยว. (2557). ASTVผู้จัดการออนไลน์. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2559, จาก https://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000125455.

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2559). จังหวัดเพชรบูรณ์. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดเพชรบูรณ์

Kotler, P. (2012). Marketing management. New Jersey : Prentice Hall.

Kotler, P., Armstrong, G., Adam, S., & Denize, S. (2014). Principles of marketing (6th ed.). Sydney: Pearson Education.

Swarbrooke, J. & Horner, S. (2007). Consumer behaviour in tourism. Butterworth : Heinemann.

Yamane, T. (1967). Taro statistic : An introductory analysis. New York : Harper & Row.