กระแสฟุตบอลโลก ปี 2014 กับทัศนคติที่มีต่อการพนันฟุตบอล ของนักศึกษาในจังหวัดนครปฐม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สำรวจความนิยมในการชมฟุตบอลโลก ปี 2014 ของนักศึกษาในจังหวัดนครปฐม (2) จำแนกความนิยมในทีมฟุตบอลโลกของนักศึกษาในจังหวัดนครปฐมตามคุณลักษณะส่วนบุคคล (3) ศึกษาอิทธิพลจากทัศนคติที่มีต่อการพนันฟุตบอล ของนักศึกษาในจังหวัดนครปฐม กลุ่มตัวอย่างได้จากการคำนวณ ด้วยวิธีของ Cochran จำนวน 460 ราย จากนักศึกษาจังหวัดนครปฐมด้วยวิธีการสุ่มตามสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ค่าถดถอยพหุคูณด้วยโปรแกรม MPLUS Version 7
ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษามีความนิยมในการชมฟุตบอลอยู่ในระดับน้อย (ร้อยละ 42.61) มีความสนใจในการพนันฟุตบอลโลก ร้อยละ 20.87 ผลการสำรวจทัศนคติที่มีต่อการพนันฟุตบอลของนักศึกษาในจังหวัดนครปฐม พบว่าทัศนคติที่ได้รับการประเมินสูงในสามลำดับแรกได้แก่ (1) การพนันฟุตบอลจะทำให้ชมฟุตบอลสนุกขึ้น (Mean = 3.76) (2) การพนันฟุตบอลจะทำให้เข้ากลุ่มเพื่อนฝูงได้ดี (Mean = 3.72) และ (3) การเล่นพนันฟุตบอลเป็นวิธีที่หาเงินง่าย (Mean = 3.54) ส่วนทีมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงในสามลำดับแรกได้แก่ ทีมชาติ บราซิล (ร้อยละ 38.26) เยอรมัน (ร้อยละ 17.17) และสเปน (ร้อยละ 10.00)
ผลการวิจัยค่าถดถอยพหุคูณ พบว่าทัศนคติที่ส่งผลต่อ การพนันฟุตบอล ได้แก่ การเล่นพนันฟุตบอลทำให้คนรวยขึ้น (X2) (b=0.31) การเล่นการพนันฟุตบอลเป็นแฟชั่นของวัยรุ่นในสมัยนี้ (X4) (b=0.06) สมาชิกครอบครัว และเพื่อนที่เล่นพนันมีอิทธิพลทำให้ท่านอยากเล่นพนันตาม (X5) (b=-0.14) การเล่นพนันฟุตบอลในกลุ่ม นักศึกษาเป็นเรื่องปกติ (X6) (b=0.02) และ การพนันฟุตบอลจะทำให้เข้ากลุ่มเพื่อนฝูงได้ดี (X7) (b=-0.04) โดยมีอำนาจความแม่นยำในการพยากรณ์ 0.90
* อาจารย์ประจำโปรแกรมการจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
Corresponding author : son1912@gmail.com
Article Details
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กฤษฎา พงษ์รื่น (2542). รูปแบบการเล่นพนันฟุตบอลของนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครและทัศนะของการเล่นการพนัน. ภาคนิพนธ์ ศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต.บัณฑิตวิทยาลัย.สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์.
เกรียงศักดิ์ มณีภาค. (2552). ความคิดเห็นของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ในจังหวัดลำปาง เกี่ยวกับการเล่นพนันฟุตบอล. คณะบริหารธุรกิจ (ยุทธศาสตร์การพัฒนา). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง. (2546). “การพนันไม่ใช่การเล่นกีฬา”. กรุงเทพธุรกิจ. ค้นเมื่อ19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546.
ชุติมน ใจจำนง. (2550). ความคิดเห็นต่อการพนันฟุตบอลอาชีพ ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต.(พัฒนาสังคมศาสตร์) สาขาพัฒนาสังคมศาสตร์ โครงการสหวิทยาการระดับบัณฑิตศึกษา.
ชูพงษ์ จารุดำรงค์ศักดิ์.(2545). ผลกระทบที่มีต่อสังคมและครอบครัวจากการเล่นพนันฟุตบอล. ปัญหาพิเศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ดวงนภา เป็นมิตร. (2549). การเข้าสู่การเล่นพนันฟุตบอลของนักเรียน – นักศึกษาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต(ยุทธศาสตร์ การพัฒนา). มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต.
พินิต วงษ์ยี่กุล. (2543). อุตสาหกรรมการพนันฟุตบอลในเขตกรุงเทพมหานคร.วิทยานิพนธ์เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มงคล พัชดำรงกุล.(2544). การตีค่าความสูญเสียจากการเล่นการพนันฟุตบอลของนักเรียน-นักศึกษา ในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ระเบียงทรรศนะ. (2557) .ฟุตบอลโลก..เกมส์กีฬา มิใช่การพนัน!. ค้นเมื่อ 14 มิถุนายน 2557 จาก https://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=632.
วริทธิ์ โอนพรัตน์วิบูล .(2549). กระบวนการตัดสินใจและอิทธิพลของสื่อบุคคลและสื่อมวลชนที่มีต่อการตัดสินใจเลิกเล่นการพนันฟุตบอลของกลุ่มผู้เล่นการพนันฟุตบอล. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันวิทยบริการ.
ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .(2557). พฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลโลก 2014 รอบที่ 2 .ค้นเมื่อ 14 มิถุนายน. 2557. จาก https://news.thaipbs.or.th/content/.
สังศิต พิริยะรังสรรค์.(2547). การพนันฟุตบอล. มติชนรายวัน. วันที่ 28 มกราคม 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9455.
สุภาวดี เมืองน้อย. (2551). ความคิดเห็นที่มีต่อพฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลของนักศึกษาภาคปกติมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม. คณะวิทยาการจัดการ. มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม.
แสงอาทิตย์ จิตรปรีดา และคณะ. (2551).พฤติกรรมและทัศนคติที่มีต่อการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนไทยในระดับอุดมศึกษา : ศึกษากรณีนักศึกษาภาคปกติ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม. คณะวิทยาการจัดการ. มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม.
Cochran, W.G. (1953). Sampling Techniques. Experimental Designs, New York : Cuyno.
Muthén, L.K. and Muthén, B.O. (1998-2012). Mplus User’s Guide. 7 ed. Los Angles CA : Muthén & Muthén.