การพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนวัตวิถีเพื่อชุมชนที่ยั่งยืนของจังหวัดตรัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพแวดล้อม และอัตลักษณ์ ของจังหวัดตรัง ในปัจจุบัน (2) ศึกษากระบวนการจัดการและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของจังหวัดตรัง และ (3) เสนอแนะการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนวัตวิถีเพื่อชุมชนที่ยั่งยืนของจังหวัดตรัง
รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องภาคประชาชน จำนวน 20 ท่าน กลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องภาครัฐ จำนวน 10 ท่าน และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน รวมทั้งสิ้น 35 ท่าน ใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการวิจัย โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ข้อมูลที่เก็บได้มาทำการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพแวดล้อม และอัตลักษณ์ ของจังหวัดตรัง ในปัจจุบัน สภาพทรัพยากรมีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามแต่ควรปรับปรุงทัศนียภาพ ของพื้นที่และแหล่งเรียนรู้ให้มีความดึงดูดใจต่อนักท่องเที่ยวมากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานหลักและเส้นทางคมนาคม ยังไม่เพียงพอและยังไม่ได้มาตรฐานในระดับสากล นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่เป็นอัตลักษณ์ ส่งเสริมชุมชนที่มีจุดเด่นด้านวัฒนธรรม (2) กระบวนการจัดการและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของจังหวัดตรัง จังหวัดตรังเป็นเมืองการท่องเที่ยวทางภาคใต้ ที่มีต้นทุนทางทรัพยากรที่สมบูรณ์จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเลที่โดดเด่น และรอการพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กิจกรรมการท่องเที่ยวมีการบริการข้อมูลต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ผ่านระบบสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนมาก นำเสนอสินค้าและบริการที่สามารถชูเอกลักษณ์ของจังหวัดตรังที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากคนในชุมชน และ (3) แนวทางการพัฒนา สร้างเครือข่ายชุมชนและมีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายชุมชนการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และต้องมีการปรับปรุง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิม และสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่
1*นักศึกษาปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
2-4คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กรมการพัฒนาชุมชน. (2561). คู่มือบริหารโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี. กรุงเทพมหานคร: ม.ป.ท.
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2562). วัฒนธรรมคุณค่าสู่มูลค่า. ค้นเมื่อ ธันวาคม 3, 2566, จาก http://www.culture.go.th/culture_th/ewt_news.php?nid=3972&filename=index
กฤษณะ ดาราเรือง. (2564). แนวทางการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านหนองกระดูกเนื้อ ตำบล หนองนมวัว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 4(4), 105- 122.
กวี วรกวิน. (2562). ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บริษัทพัฒนา คุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด.
กันตภณ แก้วสง่า และนิศาชล จำนงศรี. (2558). การจัดการความรู้การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 9(2), 79-103.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2566). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570). ค้นเมื่อ ธันวาคม 3, 2566, จาก https://planning.dusit.ac.th/main/wp-content/uploads /2023/06/แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ-ฉบับที่-3-พ.pdf
เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ. (2565). plan13 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 สรุป. ค้นเมื่อ ธันวาคม 3, 2566, จาก https://www.iok2u.com/article/strategic-plan/pian13-sum
ดุสิตพร ฮกทา. (2560). แนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว จังหวัดตรัง. วิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.
ธง คำเกิด และคณะ. (2564). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนฐานรากวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน ของตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี. คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี.
นิตยา งามยิ่งยง และ ละเอียด ศิลาน้อย. (2560). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนชุมชนบริเวณริมฝั่ง คลองดำเนินสะดวก ในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดราชบุรี. วารสารวิทยาลัย ดุสิตธานี, 11(1), 149- 166.
ประกาย วุฒิพิพัฒนพงศ์. (2565). ศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กรณีศึกษา: หมู่บ้านท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน (บ้านซะซอม) อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 41-63.
ปาริชาติ คุณปลื้ม. (2562). ศึกษาชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี.16(1), 14-22.
พิรดาภร ใจหาญ. (2566). แนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี ที่เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ในจังหวัดนครพนม. วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์, 5(2), 41-56.
วัลลภ วรรณโอสถ. (2564). รูปแบบการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน OTOP นวัตวิถีเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ แบบ 2.1 ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศศิชา หมดมลทิล. (2562). ท่องเที่ยวโดยชุมชนวิถีสู่ความยั่งยืน. ค้นเมื่อ ธันวาคม 3, 2566, จาก https://www.gsbresearch.or.th/wp-content/uploads/2019/10/GR_report_travel detail.pdf
ศูนย์ประสานงานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน. (ม.ป.ป.). การท่องเที่ยวโดยชุมชน. ค้นเมื่อ ธันวาคม 3, 2566, จาก https://thaicommunitybasedtourismnetwork.wordpress.com/cbt/
หลักการของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่ม 27 ,2542 [Online]. Available : https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=27&chap= 3&page=t27-3-infodetail02.htm [2566, ธันวาคม 3].
David B. Weaver. (2003). The encyclopedia of ecotourism. CABI Publishing Series.
Etsuko, Okazaki. (2008). A Community-Based Tourism Model: Its Conception and Use. Journal of Sustainable Tourism, 16(5), 511–529.
Fennell, J. (1999). Contemporary Urban Planning. New Jersey : Prentice-Hall.
Harwood, S. (2010). Planning for Community Based Tourism in a remote location. Sustainability, 2(7), 1909–1923
Lo Y-C and Janta P. (2020). Resident’s Perspective on Developing Community-Based Tourism – A Qualitative Study of Muen Ngoen Kong Community, Chiang Mai, Thailand. Front. Psychol. 11:1493. https://doi: 10.3389/fpsyg.2020.01493.