ความสัมพันธ์ของผลการดำเนินงานทางบัญชีที่มีต่อการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Main Article Content
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity Analysis) เฉพาะอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (Current Ratio) ของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีต่อการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการ 2) ศึกษาความสัมพันธ์การวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร (Profitability Analysis) เฉพาะอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return On Equity : ROE) ของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีต่อการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการ 3) ศึกษาความสัมพันธ์การวิเคราะห์ความสามารถ (ประสิทธิภาพ) ในการดำเนินงาน (Efficiency Analysis) เฉพาะอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (Return On Asset Ratio : ROA) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ถาวร (Return On Fixed Assets :ROFA) อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover : FAT) และอัตราส่วนการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover :TAT) ของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีต่อการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการ 4) ศึกษาความสัมพันธ์การวิเคราะห์ความสามารถในการก่อหนี้ (Solvency Analysis) เฉพาะอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt/Equity Ratio) ของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีต่อการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการมีวิธีวิจัยโดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากงบการเงินของกลุ่มธุรกิจการเงินจำนวน 33 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2551-2555 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยของกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ถ้า CR เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.001 หน่วย, ถ้า NPM เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.008 หน่วย, ถ้า ROE เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.001 หน่วย, ถ้า ROA เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะลดลง 0.006 หน่วย, ถ้า ROFA เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.138 หน่วย, ถ้า FAT เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะลดลง 0.007 หน่วย, ถ้า TAT เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.186 หน่วย และถ้า D/E เพิ่มขึ้น 1 หน่วย ค่า CGR จะเพิ่มขึ้น 0.072 หน่วย โดยสมการนี้สามารถทำนายผลได้ 25.10 % และได้สมการถดถอยดังนี้
y = 3.712 + 0.001CR + 0.008NPM + 0.001ROE – 0.006ROA + 0.138ROFA – 0.007FAT + 0.186TAT + 0.072D/E
THE RELATIONSHIP OF THE FINANCED PERFORMANCE OF THE FIRMS WHICH AFFECTING THE CORPORATE GOVERNANCE RATING FOR THE FINANCIAL BUSINESS GROUP LISTED IN THE STOCK EXCHANGE OF THAILAND
The purposes of the thesis are to study 1) the relationship of Liquidity Analysis focus on Current Ratio of the Financial Business Group listed in the Stock Exchange of Thailand which affecting the Corporate Governance Rating 2) the relationship of profitable analysis focus on Net Profit Margin and Return On Equity of the Financial Business Group listed in the Stock Exchange of Thailand which affecting the Corporate Governance Rating 3) the relationship of Efficiency Analysis focus on Return On Asset Ratio and Return On Fixed Assets as well as Fixed Asset Turnover and also Total Assets Turnover of the Financial Business Group listed in the Stock Exchange of Thailand which affecting the Corporate Governance Rating 4) the relationship of Solvency Analysis focus on Debt / Equity Ratio of the Financial Business Group listed in the Stock Exchange of Thailand which affecting the Corporate Governance Rating. The research methodology is gathering data from financial statement of the Financial Business Group from 33 companies listed in the Stock Exchange of Thailand for year 2008 to 2012 by using the statistics for data analysis was Multiple Regression Analysis. The result of the research that the Financial Business group listed in the Stock Exchange of Thailand is found that if CR increase 1 unit CGR will increase 0.001 unit, if NPM increase 1 unit CGR will increase 0.008 unit, if ROE increase 1 unit CGR will increase 0.001 unit , if ROA increase 1 unit CGR will decrease 0.006 unit, if ROFA increase 1 unit CGR will increase 0.138 unit, if FAT increase 1 unit CGR will decrease 0.007 unit, if TAT increase 1 unit CGR will increase 0.186 unit and if D/E will increase 1 unit CGR will increase 0.072 unit by this equation is able to predict at 25.10%. The regression equation was defined as :
y = 3.712 + 0.001CR + 0.008NPM + 0.001ROE – 0.006ROA + 0.138ROFA –0.007FAT + 0.186TAT + 0.07D/E