ศึกษาวิเคราะห์คติธรรมเกี่ยวกับประเพณีงานศพ บ้านพงสวาย อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

Main Article Content

พระภูวนัย ภูริปญฺโญ (สุภาพ)
พระครูวาปีจันทคุณ
พระครูภาวนาพัฒนบัณฑิต

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประเพณีงานศพบ้านพงสวาย ตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 2) เพื่อวิเคราะห์คติธรรมที่ปรากฎในประเพณีงานศพบ้านพงสวาย ตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เป็นการวิจัยเชิงคุณคุณภาพ รวบรวมข้อมูลจากเอกสาร และภาคสนาม โดยการลงพื้นที่เก็บข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึกจากประชากรผู้ให้ข้อมูลหลัก 2๐ รูป/คน แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนา  


ผลการวิจัยพบว่า


ประเพณีงานศพบ้านพงสวาย ตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์นั้น  เมื่อมีคนตายลูกหลานก็จะประกอบพิธีอาบน้ำศพ ตกแต่งศพให้ดูดี เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ จากนั้นจะเอาเทียนขี้ผึ้ง หนักหนึ่งบาทไส่ ๙ เส้นจุดตั้งไว้ทางศีรษะศพ พิธีอาบน้ำศพ ญาติผู้ตายต้องไปเชิญอาจารย์ผีให้มาเป็นผู้นำในพิธีกรรมงานศพ อาบด้วยน้ำร้อนก่อนแล้วจึงอาบด้วยน้ำเย็น การมัดตราสังศพ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับฝึกหัดเคยผูกมัดศพมาแล้ว รู้คาถาเวลาผูกมัด และมัดด้วยด้ายสายสินจญ์ ๓ รอบ นุ่งห่มผ้าศพด้วยผ้าขาว รดน้ำศพเพื่อระลึกถึงบุญคุณของผู้ตาย และเพื่อขอขมาต่อผู้ตาย วันเผาศพจะไม่เผาใน วันผีกิน วันจม วันลอย และ วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ หรือวันอัคคนิโรธ เมื่อเผาเสร็จแล้วทำพิธีเก็บอัฐิและทำบุญอุทิศให้กับผู้ตาย


คติธรรมที่ปรากฏในพิธีงานศพนั้น คือ 1) การจุดตะเกียงไว้ที่ปลายเท้าหรือข้างโลงศพ เป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่างนำทางวิญญาณผู้ล่วงลับไปสู่ที่ดี หากไม่มีไฟ วิญญาณอาจไปสู่ที่มืด หมายถึงว่าเมื่อชีวิตดับลงก็เหมือนตะเกียงที่ดับเพราะน้ำมันหมด เป็นการเตือนสติคนที่ยังมีชีวิตให้เดินทางไปสู่แสงสว่างทางธรรม  2) การสวดมาติกาหมายถึงการสวดพระอภิธรรมในงานศพ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต และให้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเตือนใจผู้ที่ยังอยู่ ๓) การบวชหน้าไฟหมายถึงการบวชของลูกหลานเพื่อจูงศพไปเผา มีความเชื่อว่าผู้ตายจะได้เกาะชายผ้าเหลืองของผู้บวชเพื่อไปสู่สุคติ เป็นการเตือนคนที่ยังอยู่ไม่ให้ประมาทในชีวิต  ๔) การโปรยข้าวตอกในงานศพถือเป็นการโปรยทานครั้งสุดท้ายแก่ผู้ตาย ระหว่างเคลื่อนย้ายศพไปยังที่เผา เป็นสัญลักษณ์ของการเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้งสาม ได้แก่ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ และการเดินเวียนซ้าย ๓ รอบ ก่อนเผาศพแสดงถึงการสิ้นสุดของชีวิต

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ภูริปญฺโญ (สุภาพ) พ., พระครูวาปีจันทคุณ, & พระครูภาวนาพัฒนบัณฑิต. (2025). ศึกษาวิเคราะห์คติธรรมเกี่ยวกับประเพณีงานศพ บ้านพงสวาย อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์. บัณฑิตสาเกตปริทรรศน์, 10(2), 13–23. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/saketreview/article/view/292078
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย

พระครูกัลยาณธรรมโฆษ (รุ่ง กลฺยาโณ). (2527). การศึกษาคติธรรมจากประเพณีงานศพ: กรณีศึกษาชุมชนตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระครูอุทัยปริยัติโกศล (เสถียร ยอดสังวาลย์). (2554). ปริศนาธรรมเกี่ยวกับประเพณีการตายของภาคอีสาน. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สุเมธ เมธาวิทยกุล. (2532). สังกัปพิธีกรรม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ภาษาอังกฤษ

MahachulalongkornrajavidyalayaUniversity.(1996).Thai-LanguageTipitaka, Mahachulalongkorn

rajavidyalaya Edition. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya University Press.

Phrakhru Kalyanathammakos (Rung Kalyanon). (1984). A study of moral principles from funeral traditions: A case study of the community of Tambon Trat Si Narong DistrictSurinProvince.MasterofBuddhistStudies.GraduateSchool:Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Phrakhru Uthaipariyatikoson (Sathien Yodsangwan). (2011). Dharma riddles regarding death traditions in the Northeast. Master of Buddhist Studies. Graduate School: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Sumet Methawittayakun. (1989). Ritual Symbols. 1st edition. Bangkok: O.S. Printing House.