แนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 2) เพื่อศึกษาแนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้บริหารและครูผู้สอน จำนวน 313 คน และผู้ให้สัมภาษณ์ 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม โดยมีค่าความเชื่อมั่นสภาพปัจจุบัน เท่ากับ 0.92 และสภาพที่พึงประสงค์ เท่ากับ 0.94 และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ด้านการติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษา ด้านการพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ด้านการดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษา ความต้องการจำเป็นการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 พบว่า ด้านที่มีค่าดัชนีลำดับความต้องการจำเป็นสูงที่สุด คือ ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา รองลงมา คือ ด้านการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ด้านการดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ด้านการพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษา ด้านการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา และด้านการติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษา ตามลำดับ 2) แนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามหลักอิทธิบาท 4 ของสถานศึกษา จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาได้แนวทางดังนี้ (1) ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา สถานศึกษาจะต้องกำหนดเป้าหมายการพัฒนาการจัดการศึกษา (2) ด้านการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง สถานศึกษาควรมีการคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง (3) ด้านการดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา โดยบุคลากรในสถานศึกษาดำเนินการตามแผนด้วยความมุ่งมั่น (4) ด้านการพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สถานศึกษาควรนำผลการดำเนินงานไปพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ (5) ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษา สถานศึกษาควรนำมาตรฐานการศึกษาไปประกาศใช้เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษา (6) ด้านการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ผู้ประเมินต้องมีความรอบครอบเพื่อให้การประเมินคุณภาพการศึกษาภายในมีประสิทธิภาพ (7) ด้านการติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษา สถานศึกษาควรนำข้อมูลจากการติดตามผลการดำเนินงานไปใช้ในการพัฒนาสถานศึกษา
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆบทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ภาษาไทย
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กานต์สินี วาดวงศ์ (2561). การพัฒนาแนวทางการประกันคุณภาพภายใน สำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ. Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University. 9(1), 281-294.
กุลทรัพย์ เลิศทวีสิน (2562). แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายใน ตามกรอบนโยบายการปฏิรูประบบการประเมินและประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในสถานศึกษาเอกชน กรุงเทพมหานคร. วารสารรัชต์ภาคย์. 13(30), 201-215.
จิราภรณ์ ผันสว่าง. (2562). ผู้นํากับการเป็นนักบริหารการศึกษามืออาชีพ. มหาสารคาม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ณัฐชยา บำรุงเวช (2561). การประยุกต์ใช้อิทธิบาท 4 ในกระบวนการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา : ศึกษาเฉพาะกรณีโรงเรียนในสังกัดกลุ่มอัมพวา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. (2564) รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
ภาษาอังกฤษ
Bamrungvej N. (2018). The application of Idthibat 4 in quality assurance processes within educational institutions: A case study of schools under the Amphawa group. Samut Songkhram Primary Educational Service Area Office. graduate school Buddhism. Graduate school: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Lertthaweesin K.. (2019). Guidelines for internal quality assurance operations according to the policy framework Reforming the educational assessment and quality assurance system of educational institutions in private educational institutions. Ratchapark Journal. 13(30), 201-215.
Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (1996). Thai Tripitaka Mahachulalongkornrajavidya laya edition. Bangkok. Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Ministry of Education. (2010). National Education Act 1999 and its amendments. (No. 2) 2002 and (No. 3) 2010. Bangkok :printing company, delivery of goods and parcels.
Phansawang J.. (2019). Leadership and being a professional educational administrator. Mahasarakham: Printing University Rajabhat Maha Sarakham.
Roi Et Primary Educational Service Area Office 3. (2021). Performance Report Fiscal Year 2021. Office of the Basic Education Commission Ministry of Education.
Secretariat of the Senate. (2017). Constitution of the Kingdom of Thailand B.E. 2560. Bangkok: Secretariat of the Senate.
Wadwong K.. (2018). Development of guidelines for internal quality assurance for affiliated educational institutions Bueng Kan Primary Educational Service Area Office. Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University. 9(1), 281-294.
