รูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยรูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธี มีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธี และ 2) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธี การดำเนินงานวิจัยใช้วิธีวิทยาการวิจัยแบบผสมระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยพหุกรณีศึกษา การดําเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามระดับความเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธีตามหลักพาหุสัจจะ และตอนที่ 2 แบบสอบถามความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ในการดำเนินรูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธีตามหลักพาหุสัจจะ โดยใช้เทคนิค IOC คัดเลือกข้อที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการพัฒนาการสอนภาษาไทยธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรับความปกติใหม่ระดับอุดมศึกษาศตวรรษที่ 21 ด้วยหลักพุทธวิธี ผลการทดลองหาประสิทธิภาพจากการทำแบบประเมินการตรวจสอบประสิทธิภาพและความสอดคล้อง ด้านที่มาและความสำคัญของรูปแบบการเรียนการสอน ด้านแนวคิดทฤษฎีที่ใช้เป็นพื้นฐาน ด้านองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน ด้านหน่วยการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ และด้านการวัดและการประเมินผล อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .491 ผลงานวิจัยนี้เป็นระบบเชิงผลลัพธ์ที่ต้องเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด ทักษะ และเจตคติของผู้เรียนซึ่งเกิดจากความเข้าใจ ด้วยหลักพุทธวิธีตามหลักพาหุสัจจะ คือการนำหลักพาสัจจะมาบูรณาการกับการเรียนการสอนวิชาการสอนภาษาไทย เพื่อเยาวชน นิสิตและนักศึกษา ที่ธำรงอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆบทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ภาษาไทย
คณะกรรมการตรวจชำระพระไตรปิฎก. (2538). พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
ปริวัตร เขื่อนแก้ว และทิพรัตน์ นพฤทธิ์. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงสถิติของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา. หลักสูตรศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอนคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดีสุรเตโช ป.ธ.9, ราชบัณฑิต). (2551). พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสนคําวัด. กรุงเทพมหานคร: ธรรมสภาและสถาบันบันลือธรรม.
มหามกุฏราชวิทยาลัย. (2525). พระไตรปิฎกภาษาไทยพร้อมอรรถกถาแปล 91 เล่ม ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
ภาษาอังกฤษ
Mahamakut Buddhist University. (1982). Tipitaka in Thai language and commentary translated 91 volumes, Mahamakut Buddhist College Edition. Bangkok: Mahamakut Buddhist University Printing House.
Pariwat Khueankaew and Tiparat Nopharit). (2016). Development of a learning management model that is consistent with learners in 21st century to promote statistical thinking among students in higher education. Doctor of Education Program Department of Curriculum and Instruction, Faculty of Education Chiang Mai University.
Phra Thammakittiwong (Thongdee Suratecho Phor.Tor.9, Royal Graduate School). (2008). A Dictionary for the Study of Buddhist Words. Bangkok: Dhammasapa and Banlue Dhamma Institute.
Tripitaka Audit Committee. (1995). The Pali Tipitaka, Siam Rath edition. Bangkok: Mahamakut Buddhist University Printing House.
