ภาพอนาคตแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่เพื่อการพัฒนานวัตกรรม เชิงสังคม (Social Innovation) จังหวัดชัยนาท
คำสำคัญ:
การศึกษาภาพอนาคต, การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่, การพัฒนานวัตกรรมเชิงสังคมบทคัดย่อ
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาและระบุปัจจัยและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญ (Mega trend) ที่จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ในระยะ 10 ปีข้างหน้า ในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่และวิถีชีวิต 2) จัดทำภาพอนาคตแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่เพื่อการพัฒนานวัตกรรมเชิงสังคม (Social Foresight) ของจังหวัดชัยนาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า รวมทั้งกำหนดนโยบายและแผนการดำเนินงานการพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับภาพอนาคต และ 3) เพื่อสร้างความตระหนักกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยงานวิจัยนี้ผู้วิจัยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ และมีเครื่องมือในการจัดทำภาพอนาคต โดยเริ่มต้นจากการจับสัญญาณ ภาวะคุกคาม และโอกาสของ จ.ชัยนาท ตามด้วยการวิเคราะห์รากเหง้าของปรากฏการณ์ทางด้านสังคมและเศรษฐกิจของ จ.ชัยนาท และการกำหนดฉากทัศน์อนาคต (Future Scenario) ในส่วนของการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยทำการเก็บข้อมูจากการการสัมภาษณ์ การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการสนทนากลุ่ม (Focus Group) เพื่อจัดทำฉากทัศน์อนาคต เมื่อได้ข้อมูลแล้วผู้วิจัยทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการมองอนาคต 4 เครื่องมือ คือ 1) การกวาดจับสัญญาณ (Horizon Scanning) ด้วยเทคนิค STEEP 2) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิค Causal-layered Analysis (CLA) 3) การจัดทำแผนที่สมมุติฐานแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ จ.ชัยนาท ด้วยเทคนิค Morphological Analysis และ 4) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการสร้างฉากทัศน์อนาคต (Future Scenario Building)
ผลการศึกษาพบว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิค Causal-layered Analysis (CLA) พบว่า แม้ จ.ชัยนาท จะมีวิสัยทัศน์และประเด็นยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาจังหวัดที่รอบคอบ รัดกุม แต่ยังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังทำให้ภาคเกษตรกรรมที่จังหวัดมุ่งหวังให้เป็นเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยยังต่ำกว่าค่าเป้าหมายพอสมควร นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มคงที่เนื่องจากไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ กอปรกับจำนวนประชากรวัยผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงมีแนวโน้มสูงขึ้นทำให้การเข้าถึงทรัพยากร โอกาส และโครงสร้างพื้นฐานบริการสาธารณะ เช่น การศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น มีอย่างจำกัด ทั้งนี้ พบว่า กระบวนทัศน์ของบุคลากรภาครัฐในพื้นที่ จ.ชัยนาท เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนา กล่าวคือ มองความยากจนเป็นเรื่องของประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้มีภาวะพึ่งพิง แต่ไม่ให้ความสำคัญกับข้อมูลสถิติทางด้านเศรษฐกิจ โดยมองว่า เป็น “ภาระ” ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่จริงแล้ว ข้อมูลคือเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรมยึดติดกับระเบียบต่าง ๆ ทางราชการมากเกินไป โดยไม่พิจารณาบริบทของพื้นที่ ทำให้เกิดแนวคิดแบบ Shrink/Stagnation Mindset
ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่วิเคราะห์ในขั้นแรกด้วยเทคนิค STEEP และ CLA พบว่า รูปแบบแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ จ.ชัยนาท ในระยะเวลา 10-20 ปีข้างหน้า มีจำนวน 4 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและสังคมแบบเงียบ รูปแบบที่ 2 ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อร้ายแรงและสภาวะโลกร้อน รูปแบบที่ 3 การเกษตรเชิงพาณิชย์ (Commercialized Agriculture) และรูปแบบที่ 4 การใช้ทรัพยากรอย่างไม่เต็มศักยภาพ (Continued Resource Under-utilization)
จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ จ.ชัยนาท 4 รูปแบบ พบว่า ฉากทัศน์อนาคตที่เป็นไปได้ซึ่งผู้วิจัยพิจารณาด้วยเทคนิค Organizational Scenario Method มีดังนี้ 1) ฉากทัศน์ “ปกติเก่า (Business as Usual)” 2) ฉากทัศน์ “ดีที่สุด (Best Case)” 3) ฉากทัศน์ “แย่ที่สุด (Worst Case)” และ 4) ฉากทัศน์ “ผิดปกติ (Outlier)”
จากผลการศึกษาและประเด็นเชิงนโยบายที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยได้ดำเนินการสังเคราะห์เป้าหมายเชิงกลยุทธ์และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมเชิงสังคมในพื้นที่ จ.ชัยนาท ในลักษณะ “พิมพ์เขียว (Blueprint)” ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมเชิงสังคมในพื้นที่ จ.ชัยนาท ในระยะ 10-20 ปี ซึ่งประกอบด้วย 5 เป้าหมาย คือ (1) ผลผลิตต่อไร่ของพืชเศรษฐกิจหลักเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า (2) มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (3) หนี้สินครัวเรือนภาคเกษตรโดยเฉลี่ยลดลงร้อยละ 50 (4) เกษตรกรในพื้นที่ จ.ชัยนาท ทุกคนเข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G และ (5) จ.ชัยนาท มีพื้นที่ต้นแบบนวัตกรรมทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางตอนล่าง 2) ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ของผู้วิจัย ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ กลยุทธ์หลัก (Core Strategy) กลยุทธ์เสริมทัพ (Enabling Strategy) และกลยุทธ์สนับสนุน (Supporting Strategy)
เอกสารอ้างอิง
Ahuja, G., Coff, R. W., & Lee, P. M. (2005). Managerial foresight and attempted rent appropriation: Insider trading on knowledge of imminent breakthroughs. Strategy Management, 26(9), 791-808.
Bualek, P., & Jinnarit, S. (B.E.2563). The development of knowledge, technology and management of rice marketing in Chai Nat province. Journal of Chandrakasemsarn, 26(2), 211-229.
Chuenka, R., & Supun, J. (B.E.2563). Traditional knowledge in Chai Nat province for sustainable tourism promotion. Inthaninthaksin Journal, 15(1), 137-161.
Godet, M. (2011). Strategic foresight: For Corporate and Regional Development. UNESCO.
Hodgkinson, G. P., & Clarke, I. (2007). Exploring the cognitive significance of organizational strategizing: a dual-process framework and research agenda. Human Relations, 60, 243–255.
Noojarean, P., Nakrit, S., Poomkaew, Y., & Buatchum, N. (B.E.2554). The pattern for role promotion of the elders in the community development, Chainat province. Journal of Yanasangvorn Research Institute Mahamakut Buddhist University, 2(2), 61-67.
Ritchey, T. (2011). Wicked Problems – Social Messes. Springer: Verlag Berlin Heidelberg.
Rohrbeck, R. (2012). Exploring value creation from corporate-foresight activities. Futures, 44, 440–452.
Rohrbeck, R., & Schwarz, J. O. (2013). The value contribution of strategic foresight: insights from an empirical study of large European companies. Technological Forecasting and Social Change, 80, 1593-1606.
Schwartz, P. (1996). The Art of the Long View. New York: Doubleday
Thepta, S. (B.E.2561). Built environment development and value creation of tourist image-based destinations Chainat province. Journal of International and Thai Tourism, 14(2), 76-91.
Tsoukas, H., & Shepherd, J. (2004). Coping with the future: developing organizational foresightfulness -introduction. Futures, 36, 137-144.
Udomsaksri, K., & Boonkoum, W. (B.E.2561). The development of strategy for creative city of rice farming to strengthen farmers communities in Chai Nat province. Silpakorn Education Research Journal, 10(2), 211-221.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.