A การศึกษาตัวแบบการจัดการวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืนในภาคเหนือตอนบน
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบโฮมสเตย์ในภาคเหนือตอนบน 12 แห่งเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยการทำสัมภาษณ์เชิงลึก ว่ามีแนวทางในการจัดการอย่างไรเพื่อให้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์สามารถอยู่ได้โดยอาศัยการจัดการความรู้ที่มีเป็นพื้นฐาน ผนวกกับการศึกษาบทบาทภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์ ที่นำมาสู่ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยในด้านการจัดการวิสาหกิจชุมชน มุ่งศึกษาในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านเงินทุนและแรงงาน ด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ การสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยว และการสร้างเครือข่าย ส่วนการศึกษาการจัดการความรู้ของวิสาหกิจชุมชน ศึกษาองค์ประกอบหกด้านคือ ด้านการรวบรวมความรู้ การสร้างความรู้ จัดเก็บความรู้ วิเคราะห์ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้และการนำความรู้ไปใช้ ส่วนการศึกษาบทบาทภาครัฐที่มีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน ศึกษาในด้านนโยบายและแผน การงบประมาณ การอบรมและด้านอื่นๆ พร้อมกับการศึกษาความสำเร็จของวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์ ในด้านเศรษฐกิจ (รายได้) ด้านนิเวศวิทยาหรือสภาพแวดล้อมและด้านการอนุรักษ์วิถีดั้งเดิมหรือวัฒนธรรม
ผลการศึกษาพบว่าการจัดการวิสาหกิจชุมชนของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบโฮมสเตย์ใน 4 ด้านประกอบด้วย 1) ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทุกโฮมสเตย์ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่รอบตัว เพราะป่าคือแหล่งน้ำ ที่เป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญสำหรับการอุปโภคบริโภค รูปแบบในการอนุรักษ์ป่าและน้ำคือ การไม่บุกรุกป่าเพื่อการทำลาย การปลูกป่าเพิ่มเติมตามวาระ การใช้กุศโลบายในการบวชป่า การสร้างฝายชะลอน้ำ การขุดดินเพื่อสร้างแอ่งน้ำ ในกรณีที่มีบุคคลฝ่าฝืนและกระทำผิดในการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จะถูกคณะกรรมการหมู่บ้าน ใช้กฎระเบียบของชุมชนและกฎหมายเข้ามาดำเนินการ 2) การจัดหาเงินทุนและแรงงาน ชาวบ้านที่เข้าร่วมโฮมสเตย์ต้องใช้เงินทุนและแรงงานของตนเองในการดำเนินการ ต่อมาจึงมีการจัดตั้งกองทุนของโฮมสเตย์ขึ้น 3) การจัดการการตลาด ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมีกรมการท่องเที่ยวช่วยประชาสัมพันธ์ในเว็บไซด์ของกระทรวง 4) การสร้างเครือข่าย โฮมสเตย์มีการรวมกลุ่มกันในเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นผู้ขับเคลื่อนกิจกรรม
การจัดการความรู้ของโฮมสเตย์ พบว่า ด้านการรวบรวมความรู้ การรวบรวม ทำโดย การทำวิจัยโดยคนในชุมชน การจัดอบรม รวมถึงการศึกษาดูงานจากต้นแบบโฮมเสตย์ที่ประสบความสำเร็จและเปิดรับความรู้จากผู้รู้ภายนอก ด้านการสร้างความรู้ จะใกล้เคียงกับการรวบรวมความรู้คือ การวิจัยของโฮมสเตย์ การศึกษาดูงานจากโฮมสเตย์ที่ประสบความสำเร็จ การอบรม สัมมนา ด้านการจัดเก็บความรู้ เป็นประเด็นที่มีการจัดทำเป็นส่วนน้อยรวมถึงด้านการวิเคราะห์ความรู้ ที่เป็นกระบวนการหนึ่งของการทำวิจัยในโฮมสเตย์ที่มีการวิจัยเป็นฐาน เช่นโฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง บ้านหนองอาบช้างโฮมสเตย์ บ้านสามขาโฮมสเตย์ เป็นต้น ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ ทำประชาสัมพันธ์หมู่บ้าน การทำประชาคมหมู่บ้าน การศึกษาโฮมสเตย์อื่น การอบรมสัมมนาและการตรวจเยี่ยมจากข้าราชการในการติดตามงานการพัฒนาในแต่ละโฮมสเตย์ และนำความรู้นั้นมาแบ่งปันกับชุมชนในโฮมสเตย์ แล้วกำหนดแนวทางในการนำไปปฏิบัติ
การประเมินความสำเร็จของโฮมสเตย์เหมือนกับการจัดการหน่วยธุรกิจหนึ่ง ด้านรายได้โฮมสเตย์ 6 ใน 12แห่ง ประสบความสำเร็จและสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ด้านนิเวศวิทยาและสภาพแวดล้อม ทุกโฮมสเตย์สามารถรักษาสภาพแวดล้อมในชุมชนได้อย่างดี ตระหนักถึงผลกระทบถ้าไม่ช่วยกันบำรุงรักษา ส่วนการอนุรักษ์ในวิถีดั้งเดิมหรือวัฒนธรรม โฮมสเตย์ที่เป็นชาติพันธุ์ทุกแห่ง รักษากิจกรรมที่เป็นประเพณีของชนเผ่าอย่างต่อเนื่อง และมีการจัดทำสม่ำเสมอทุกปี
ภาครัฐที่มีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้กำหนดนโยบายและแผนเชิงกลยุทธ์หรือยุทธศาสตร์ และมีบทบาทในการทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์กิจกรรรมต่างๆให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนกรมการท่องเที่ยวทำหน้าที่ในเชิงวิชาการคือการออกกฎระเบียบ มาตรฐาน วิธีการตรวจประเมิน การให้ความรู้ การอบรม การจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปแนะนำ จนกระทั่งกระบวนการประเมิน ออกใบอนุญาต รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่น ถนน การไฟฟ้าและการประปา เป็นต้น จากการศึกษา การกำหนดนโยบายและแผนเป็นภาพรวมของการท่องเที่ยว ที่ไม่ได้เจาะจงมุ่งเน้นเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์ อีกทั้งปัจจุบันกระทรวงการท่องเที่ยว ได้มุ่งเน้นการท่องเที่ยวโดยชุมชน จึงทำให้ขาดความเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์ ในระดับนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ด้านการอบรมและการตรวจประเมิน ถือว่าเป็นหน้าที่โดยตรงของกรมการท่องเที่ยว ทุกโฮมสเตย์จะต้องผ่านการอบรมและการตรวจประเมินก่อน ถึงจะได้รับการรับรองตามมาตรฐานโฮมสเตย์
ซึ่งจากการศึกษาทั้งหมด จึงนำเสนอตัวแบบการจัดการวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบโฮมสเตย์อย่างยั่งยืนในภาคเหนือตอนบนสองตัวแบบได้แก่ ตัวแบบที่เป็นองค์รวมคือตัวแบบที่รวบรวมปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการจัดการทั้งหมดและตัวแบบที่จำเป็นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือตัวแบบที่ขาดไม่ได้ในการจัดการวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
คำสำคัญ: การจัดการความรู้ การจัดการ วิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบโฮมสเตย์ บทบาทภาครัฐ