ความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดปรากฏการณ์เป็นฐาน โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนในจังหวัดสุพรรณบุรี

Main Article Content

ณัฐฐา รัตนปัญญา
วริศนันท์ เดชปานประสงค์
สุดใจ เขียนภักดี
เดชกุล มัทวานุกูล
มนูญพงศ์ ชัยพันธุ์
อดิศร ศิริ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ 2) นำเสนอแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดปรากฏการณ์เป็นฐาน โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนในจังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 3 คน ครูที่สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 24 คน และผู้ที่มีส่วนได้เสีย จำนวน 9 คน รวมผู้ให้ข้อมูล จำนวน 36 คน ซึ่งได้จากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยใช้แบบประเมินที่มีค่าความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 แบบสอบถาม มีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.60-1.00
และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง มีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมานด้วยการหาค่าความต้องการจำเป็น (PINmodified) และวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบันของนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก และสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น พบว่า การวิเคราะห์ผู้เรียน มีความต้องการจำเป็นสูงสุด (PNImodified = .251) รองลงมา คือ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) แนวทางการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการแบบสอดแทรกกับการปฏิบัติงาน การพัฒนาการวางแผนที่มุ่งเน้นวิสัยทัศน์ของโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ และการนิเทศ ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
รัตนปัญญา ณ., เดชปานประสงค์ ว., เขียนภักดี ส., มัทวานุกูล เ., ชัยพันธุ์ ม., & ศิริ อ. . (2025). ความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดปรากฏการณ์เป็นฐาน โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนในจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารพุทธจิตวิทยา, 10(2), 289–294. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jbp/article/view/279241
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ภูฟ้า เสวกพันธ์. (2562). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสมรรถนะการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง สาหรับครูในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลันเรศวร, 21(1), 117-138.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2557). วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 8. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2562). รายงานการอบรมหลักสูตร Science Education for Science and Mathematically Gifted Learner, The Normal Lyceum of Helsinki. 13-20 มีนาคม 2562. กรุงเทพฯ: กลุ่มพัฒนาการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2554). เทคนิคการสร้างกรอบแนวคิดในการวิจัย. กรุงเทพฯ: ส่วนส่งเสริมและพัฒนาการวิจัย ภารกิจบริหารจัดการผลงานวิจัย สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.

Chareonthum, T. (2019). Developing a program to strengthen science teachers through applying in managing learning to promote student critical thinking for secondary school (Doctoral dissertation). Mahasarakham University.

Juthasong, C. (2012). The development of program to enhance learning management competency for teachers under non-formal and informal education (Doctoral dissertation). Mahasarakham University.

Mongkolvanich, J. (2012). Administration of educational organization and personnel. Bangkok: Thawee Print (1991).

Office of the Education Council. (2015). Subject Research Analysis of Thai Education in the 21st Century World. Bangkok: Office of the Education Council, Ministry of Education.

Mattila P. and Silander P. (2015). How to create the school of the future: revolutionary thinking and design from Finland. Finland: Multprint, Oulu.