รูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีตามแนวพระพุทธศาสนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ แนวคิด และทฤษฎีการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ใช้ในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี 3) เพื่อสร้างรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีตามแนวพระพุทธศาสนา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์เชิงลึก และจัดเสวนากลุ่มจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านศาสนา พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงความรู้ นักการศาสนา คณาจารย์ นักวิชาการด้านสังคม จำนวน 20 รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แบบสัมภาษณ์ แนวการสนทนาในการประชุมกลุ่ม และเครื่องบันทึกเสียง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1) การปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเป็นกระบวนการที่บุคคลสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคม ทฤษฎีบทบาท ทฤษฎีการสื่อสารระหว่างบุคคล ทฤษฎีปฏิสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์ ทฤษฎีปฏิสัมพันธ์กลุ่มทฤษฎีโครงสร้างหน้าที่ ทฤษฎีการแบ่งงาน และทฤษฎีความขัดแย้ง 2) หลักพุทธรรมที่ส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ที่ดี ได้แก่ ทิศ 6, พรหมวิหาร 4, สังคหวัตถุ 4, ศีล 5, ฆราวาสธรรม 4 และสาราณียธรรม 6 และ 3) รูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีตามแนวพระพุทธศาสนา คือ HARMO Model H = Hamony หมายถึง ความปรองดอง, A = Altruism หมายถึง การเห็นแก่ผู้อื่น, R = Respect หมายถึง การให้เกียรติ, M = Make friend หมายถึง การผูกมิตร, O = Own conduct หมายถึง การปฏิบัติตน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสังคมมนุษย์
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. กรุงเทพมหานคร:: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2551). "ทักษะสังคม" ใครว่าไม่สำคัญ. ค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2567 จาก https://www.kriengsak.com/node/1646
เอมอร กฤษณะรังสรรค์. (2561). ทักษะการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น. ค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2567 จาก https:/www.novabizz.com/NovaAce/Relationship/Skill.htm.
Goleman, D. (2006). Social Intelligence: The New Science of Human Relationships. Bantam Books.