พัฒนาการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาที่สอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น สำหรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดกาญจนบุรี
คำสำคัญ:
สะเต็มศึกษา, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, วิทยาศาสตร์พื้นฐาน, โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มาใช้สอดแทรกในกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ตามแนวสะเต็มศึกษา 2) พัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ด้วยชุดกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาที่สอดแทรก ภูมิปัญญาท้องถิ่น และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ ตามแนวสะเต็มศึกษาที่สอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น สำหรับนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดกาญจนบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 110 คน จาก 3 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์ชาวบ้านในชุมชนที่ตั้งโรงเรียน ชุดกิจกรรมเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ การหาค่าดัชนีประสิทธิผล และสถิติการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน
ผลการวิจัย พบว่า 1) ภูมิปัญญาที่สามารถนำมาใช้สอดแทรกในกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา ได้แก่ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้ในการประกอบอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ภูมิปัญญาที่นำมาใช้เป็นกรณีศึกษา ได้แก่ การทำตะคัด การทำไม้กวาดดอกหญ้า และการสานโง 2) ผลการพัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาที่สอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้ง 3 กรณีศึกษา ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางพัฒนาการการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 63, 62, และ 60 ตามลำดับ และ 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนทั้ง 3 กรณีศึกษา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
References
ชลีรัตน์ พยอมแย้ม, และรัตนา หิรัญโรจน์. (2558). การวิจัยและพัฒนาบทเรียนวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นเรื่อง ขนมจีนแป้งหมักชุมชนโพรงมะเดื่อ. วารสารวิจัยสหวิทยาการไทย. 10(1), 43-56.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย. 5(1), 7-20.
ฐิติลักษณ์ วัฒนศิริ, ปริญญา ทองสอน, และสมศิริ สิงห์ลพ. (2561). ศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่บูรณาการองค์ความรู้ ตามแนวสะเต็มศึกษา สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 20(3), 49-63.
เทวินทร์ นิลกลัด, สุภาวรรณ์ วงค์คำจันทร์, อนุรักษ์ ปัญญานุวัฒน์, และวีระพงษ์ แสง-ชูโต. (2555). การบูรณาการภูมิปัญญาชาวไทยภูเขากับการสอนฟิสิกส์. ราชภัฏเพชรบูรณ์สาร, 14(2), 78-88.
ธีรดา สมพะมิตร. (2558) ผลการใช้ชุดกิจกรรมของเล่นภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชาติพันธุ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงราย. 8(18), 67-74.
นันธวัช นุนารถ. (2560). ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณค่าแห่งวิถีชีวิต วัฒนธรรม เพื่อการศึกษาที่ยั่งยืน. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 12(34), 17-26.
น้ำฝน คูเจริญไพศาล, สุภาพร บุตรสัย, และสุดารัตน์ คำอั้น. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่เน้นภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. 12(2), 117-134.
ประภาณี ราญมีชัย, พรรณวิไล ชมชิด, และธนวัชร์ สมตัว. (2560). การเปรียบเทียบผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบสะเต็มศึกษา เรื่องไฟฟ้าเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 1, 13 กรกฎาคม 2560 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด. ร้อยเอ็ด: มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
ปาจรีย์ เนรมิตพานิชย์, พรรณวิไล ชมชิด, และวันดี รักไร่. (2560). การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสะเต็มศึกษา เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้เชิงความคิดสร้างสรรค์ในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. 11(2), 144-152.
พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556). STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21. วารสารนักบริหาร. 33(2), 49-56.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (2542, 14 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 116 ตอนที่ 74 ก. หน้า 1-23.
พิมพร ผาพรม, และนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์. (2561). การส่งเสริมแนวคิดหลักและการปฏิบัติงานทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยโมดูลการเรียนรู้สะเต็มบนฐานวิทยาศาสตร์สืบเสาะ เรื่อง วิทยาศาสตร์ระดับนาโน. วารสารบัณฑิตวิจัย. 9(2), 43-67.
วรรณธนะ ปัดชา, และสืบสกุล อยู่ยืนยง. (2559). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ. Veridian E-journal Silpakorn University ฉบับภาษาไทย: สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 9(3), 830-839.
สมพงศ์ มาเบ้า. (2561). พัฒนาการเรียนรู้วิทยาศาสตร์พื้นฐานเรื่องไฟฟ้า ด้วยการสอนแบบอุปมาสำหรับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดกาญจนบุรี. กาญจนบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี.
สมาน อัศวภูมิ. (2560). การศึกษาไทย 4.0 : แนวคิดและทิศทางใหม่ในการจัดการศึกษาไทย. วารสารราชธานีนวัตกรรมทางสังคมศาสตร์. 1(1), 1-11.
สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร. (2559ก). รายงานการดำเนินโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปีการศึกษา 2555. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.
--------. (2559ข). สถานศึกษาในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปีการศึกษา 2559. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2562 จาก http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%a198/%a198-20-9999-update.pdf.
สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี. (2560). แผนพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี 4 ปี (พ.ศ.2561-2564). กาญจนบุรี: ผู้แต่ง.
สุกัญญา เชื้อหลุบโพธิ์, ธิติยา บงกชเพชร, และชมพูนุช วรางคณากูล. (2561). การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 13(37), 119-132.
อนัญลักษณ์ ลีละศรชัย, ชํานาญ ปาณาวงษ์, และวารีรัตน์ แก้วอุไร. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบโครงงานตามแนวคิดสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ. 8(14), 165-181.
Cohen L, Manion L, & Morrison K. (2011). Research methods in education (7th ed.). London: Routledge Falmer.
Goodman RI, Fletcher KA. & Schneider EW. (1980). The Effectiveness Index as Comparative Measure in Media Product Evaluation. Educational Technology. 20(09), 30-34.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
วารสาร TCI อยู่ภายใต้การอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) เว้นแต่จะรุบุไว้เป็นอย่างอื่นโปรดอ่านหน้านโยบายของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเช้าถึงแบบเปิด ลิขสิทธิ์ และการอนุญาต