ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนหญิงในพื้นที่นครบาล

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณลักษณะพื้นฐาน ส่วนบุคคล คุณลักษณะที่ดีตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมือง ที่ดี แรงจูงใจ สมรรถนะ และประสิทธิผลการปฏิบัติงานของ พนักงานสอบสวนหญิง 2) อิทธิพลของคุณลักษณะที่ดีตามหลัก การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สมรรถนะ และแรงจูงใจที่มีต่อ ประสิทธิผลการปฏิบัติงาน โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัย 2 แนวทาง คือ เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม เก็บข้อมูลจากพนักงานสอบสวนหญิงจำนวน 69 ราย และ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยเทคนิคการวิเคราะห์การผันแปร (univariate analysis of variance) ทั้งยังทำการเก็บข้อมูล เชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึก 4 กลุ่มได้แก่ พนักงาน สอบสวนหญิง ผู้บังคับบัญชา พนักงานสอบสวนชาย และ ประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 16 ราย รวมถึงใช้วิธีการสังเกต พฤติกรรมของพนักงานสอบสวนหญิงในระหว่างปฏิบัติงาน

ผลการศึกษาพบว่า ตัวแปรสมรรถนะมีอิทธิพลโดยรวมต่อ ประสิทธิผลการปฏิบัติงานมากที่สุด รองลงมาได้แก่ คุณลักษณะ ที่ดีฯ แรงจูงใจ และคุณลักษณะพื้นฐานส่วนบุคคลเป็นลำดับท้าย เมื่อพิจารณาโดยรวมพบว่าตัวแปรองค์ประกอบทุกตัวสามารถ อธิบายการผันแปรประสิทธิผลการปฏิบัติงานได้

ข้อค้นพบชี้ว่าตัวแปรสมรรถนะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนหญิง เมื่อเป็น เช่นนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะองค์การต้นสังกัดต้อง สนับสนุนงบประมาณให้หน่วยการศึกษาในสังกัดใช้ในการจัดการ ฝึกอบรมเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงานให้กับพนักงาน สอบสวนหญิง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานให้เป็นไป อย่างมีประสิทธิผล ส่วนผู้บังคับบัญชาต้องส่งเสริมให้พนักงาน สอบสวนหญิงศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกฎหมาย ให้ครอบคลุมต่อการปฏิบัติงานให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญคือ ตัวผู้ปฏิบัติงานหรือพนักงานสอบสวนหญิงต้องมีความใฝ่เรียนรู้ ปรับตัวเพื่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลาและนำสิ่งที่ได้จาก การเรียนรู้ประยุกต์เป็นเครื่องมือใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อให้ การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล

Factors Affecting Work Effectiveness of Inquiry Female Police Official in Bangkok Metropolis

The objectives of this research were 1) to study personal characteristics, characteristics of good governance, work motivation, work competency and work effectiveness of inquiry female police official 2) to investigate influence of characteristic of good governance, work competency and work motivation on work effectiveness. This study was conducted using two research methodologies, both quantitative and qualitative. To Questionnaires were used to collect data from 69 inquiry female police official. Then the data was analyzed, using univariate analysis of variance. To the qualitative approach, in - depth interview was conducted with 4 groups of samples and used to observe behaviors of inquiry female police official while working by researcher.

The results indicated that the work competency the most influence was work effectiveness was work competency, followed by the characteristic of good governance, the work motivation and the personal characteristic, respectively, When considering overall factors, it was found that all factors could be used to explain the work effectiveness. The study reflected that work competency played an important role for work effectiveness. Consequently, the Royal Thai Police needed to provide financial supports to educational agencies to organize training programs with the aim at enhancing inquiry female police official work effectiveness and the commander, needed to encourage inquiry female police official to acquire and apply their knoweledge to their work.