มาตรฐานทางจริยธรรมของวารสารมงกุฏทักษิณ

       วารสารวิชาการมงกุฏทักษิณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช เป็นวารสารวิชาการ เพื่อเป็นสื่อกลางส่งเสริมการเผยแพร่ องค์ความรู้ในด้านพระพุทธศาสนา สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ บริหาร ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติและจริยธรรมในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ และงานวิจัยที่มีคุณภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรรการตีพิมพ์นานาชาติ ดังนั้น วารสารวิชาการมงกุฏทักษิณ จึงได้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้เขียน ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ และกองบรรณาธิการไว้ ดังนี้

       มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้เขียน

        1.ผู้เขียนจะต้องนำเสนอบทความที่ไม่เคยได้รับการพิมพ์ หรือไม่ได้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารหรือแหล่งตีพิมพ์อื่น หรือได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ในวารสารฉบับอื่น

      2.ผู้เขียนจะต้องทำตามรูปแบบที่วารสารได้กำหนดไว้ทุกประการและต้องยินยอมปรับแก้ต้นฉบับตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ และกองบรรณาธิการ โดยเฉพาะหัวข้อ รูปแบบของการจัดเตรียมต้นฉบับ อันจะนำไปสู่บทความที่มีรูแปบบการตีพิมพ์ที่ได้มาตรฐานเดียวกัน

      3. ผู้เขียนต้องคำนำนึงถึงจริยธรรมทางวิชาการไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น

      4. หากมีการนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ในผลงานของตนเอง ผู้เขียนจะต้องอ้างอิง และจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการเอกสารอ้างอิง ทั้งในแง่ของรูปแบบและเนื้อหา และไม่ควรนำเอกสารวิชาการที่ไม่ได้อ่านมาอ้างอิงหรือใส่ไว้ในบรรณานุกรม และควรอ้างอิงเอกสารเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม ไม่ควรอ้างอิงเอกสารที่มากจนเกินไป รวมทั้งต้องอ้างอิงจากรูปแบบการอ้างอิงของบทความ โดยจะต้องมีการอ้างอิงตรงตามรูปแบบที่วารสารกำหนดไว้

      5. ผู้เขียนจะต้องปรับแก้ไขบทความตามผลประเมินจากผู้ประเมินบทความและกองบรรณาธิการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นตามที่กำหนดจะต้องเลื่อนการตีพิมพ์เผยแพร่ออกไป หรือ อาจถูกถอดถอนออกจากวารสาร

      6. ผู้เขียนจะต้องมีความรับผิดชอบในการอ้างอิงเนื้อหาในผลงาน ภาพ หรือตาราง หากมีการนำมาใฃ้ในบทความของตนเอง โดยให้ระบุ “ที่มา” เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ (หากมีการฟ้องร้องจะเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว ทางวารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น) และจะดำเนินการถอนบทความออกจากการเผยแพร่ของวารสารทันที

       มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ประเมินบทความ

       1.ผู้ทรงคุณวุฒิที่ประเมินบทความต้องคำนึงถึงคุณภาพบทความเป็นหลักพิจารณาบทความภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการโดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียน หากตระหนักว่าตนเองอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนบทความผู้ทรงคุณวุฒิควรแจ้งบรรณาธิการทราบ และปฏิเสธการประเมินบทความนั้น ๆ

       2. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ประเมินบทความต้องตระหนักว่า ตนเองเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญในเนื้อหาของบทความที่รับประเมินอย่างแท้จริง และจะประเมินอย่างตรงไปตรงมาปราศจากอคติและตรงต่อเวลาตามที่วารสารกำหนด

       3. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ประเมินบทความ ควรมีจรรยาบรรณาคือ ไม่แสวงหาประโยชน์จากการประเมินบทความ และต้องรักษาความลับ ไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณาให้แก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ รวมถึงหลังจากที่พิจารณาประเมินบทความเสร็จแล้ว

       4. หากผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบพบว่าบทความที่รับประเมิน เป็นบทความที่คัดลอกผลงานชิ้นอื่น ๆจะต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที พร้อมแสดงหลักฐานประกอบที่ชัดเจน

       5. ผู้ทรงคุณวุฒจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียน และจะไม่นำข้อมูลบางส่วนหรือทุกส่วนของบทความไปเป็นผลงานของตนเอง

       มาตรฐานทางจริยธรรมของบรรณาธิการและกองบรรณาธิการ

       1. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองคัดเลือกบทความตามรูปแบบการตีพิมพ์ของวารสารและตรวจสอบบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เนื้อหา การใช้ภาษา การอ้างอิงรวมทั้งการรวบรวมบทความก่อนส่งไปยังผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ

       2. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการมีหน้าที่สรุปผลการประเมินข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ เพื่อส่งให้ผู้เขียนแก้ไข

       3.บรรณาธิการและกองบรรณาธิการมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของบทความหลังจากผู้เขียนปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความหากผู้เขียนไม่ได้แก้ไขตามผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ กองบรรณาธิการมสิทธิยกเลิกบทความของผู้เขียนได้ทันที

       4. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการต้องไม่ปิดกั้น เปลี่ยนแปลง หรือแทรกแซงข้อมูลที่ใช้แลกเปลี่ยนระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เขียน

       5. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการมีหน้าที่ปกปิดข้อมูลของผู้เขียน และผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

       6. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการมีหน้าที่พัฒนาคุณภาพวารสารให้มีความทันสมัย เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น

       7. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนและผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ

       8. บรรณาธิการต้องกำกับติดตามดูแลทั้งด้านจำนวนและคุณภาพบทความของวารสารให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานและดูแลให้ดำเนินการตามใตรฐานทางจรรยาบรรณ/จริยธรรมอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดด้านจริยธรรม/จรรยาบรรณ เช่น การละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมากเป็นของตนเอง การอ้างอิง

       9. บรรณาธิการและกองบรรณาธิการต้องปฏิบัติตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ของวารสาร อย่างเคร่งครัด