อิทธิพลของความผูกพันของพนักงานในฐานะตัวแปรคั่นกลางที่เชื่อมโยงระหว่างการบริหารทรัพยากรมนุษย์และความพึงพอใจของพนักงานส่งผลต่อการธำรงรักษาพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก จังหวัดระยอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ความพึงพอใจของพนักงาน ความผูกพันของพนักงานและการธำรงรักษาพนักงาน 2) ความผูกพันของพนักงานในฐานะตัวแปรคั่นกลางที่เชื่อมโยงการบริหารทรัพยากรมนุษย์และการธำรงรักษาพนักงาน และ 3) ความผูกพันของพนักงานในฐานะตัวแปรคั่นกลางที่เชื่อมโยงความพึงพอใจของพนักงานและการธำรงรักษาพนักงาน ของบริษัทแห่งหนึ่ง ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก จังหวัดระยอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือแบบสอบถาม โดยทำการเก็บข้อมูลกับพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก จังหวัดระยอง จำนวนทั้งสิ้น 100 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม สถิติใช้ในการวิจัย คือค่าแความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้าง (SEM) โดยใช้โปรแกรม Smart PLS 3.0
ผลการศึกษาพบว่า (1) พนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก จังหวัดระยอง มีระดับของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ความพึงพอใจของพนักงาน ความผูกพันของพนักงาน และการธำรงรักษาพนักงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.00, 3.81, 3.81 และ 3.25 ตามลำดับ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.751, 0.813, 0.813 และ 0.812 ตามลำดับ (2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลทางตรงต่อการธำรงรักษาบุคลากร (ER) พบว่า การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) ความพึงพอใจของพนักงาน (ES) และ ความผูกพันของพนักงาน (EE) มีค่าเท่ากับ 0.052, 0.635 และ 0.279 ตามลำดับ โดยที่การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) และความพึงพอใจของพนักงาน (ES) มีอิทธิพลทางอ้อมต่อการธำรงรักษาพนักงาน (ER) มีค่าเท่ากับ 0.56 และ 0.153 ตามลำดับ (3) ปัจจัยที่มีผลโดยรวมต่อความผูกพันของพนักงาน (EE) พบว่าการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) และความพึงพอใจของพนักงาน (ES) มีค่าเท่ากับ 0.200 และ 0.547 ตามลำดับซึ่งจากผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ส่งผลให้เกิดความผูกพันของพนักงาน และในทำนองเดียวกันความพึงพอใจในการปฏิบัติงานก็ส่งผลให้กับความผูกพันเช่นกัน ความผูกพันของพนักงานเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ก่อเกิดประโยชน์โดยตรงกับการธำรงรักษาพนักงาน
*หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ 10160
Corresponding Author; E-mail: S6241010002@sau.ac.th
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
References
จันทนี ฮั่นเจริญ. (2561). การธำรงรักษาพนักงานของธุรกิจโรงแรมในอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี. การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.
ชัญภร เสริมศรี. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารทรัพยากรมนุษย์กับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากร บริษัทแห่งหนึ่ง ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาการบริหารทั่วไป), วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
ชูชัย สมิทธิไกร. (2557). พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพมหานคร: บริษัท วี พริ้นท์ (1991) จำกัด.
เชิดพันธ์ พันธ์สุข. (2560). ความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การของพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมในกรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ตวงพร รุ่งเรืองศรี. (2563). ความพึงพอใจและความผูกพันต่อสถาบันของนิสิตวิทยาลัยการบริหารัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา. วารสารด้านการบริหารรัฐกิจและการเมือง, 9(2), 125-147.
ธีรวัฒน์ ศรีอนุชาต. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านความพึงพอใจของพนักงานกับปัจจัยด้านความจงรักภักดีต่อองค์กรรัฐวิสาหกิจกรณีศึกษา ธนาคารออมสิน สานักงานใหญ่สายงานบริหารหนี้และกฎหมาย. ค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต .สาขาวิชาการจัดการ, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
ปิยาพร ห้องแซง. (2555). การบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีผลต่อความผูกพันในองค์กรของพนักงานสาขาธนาคารออมสิน ในเขตกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เพ็ญนภา จันทร์บำรุง. (2559). ปัจจัยการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของกิจกรรมไคเซ็น กรณีศึกษาโรงงานอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์ของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง. การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต .สาขาพาณิชยศาสตร์และการบัญชี, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
มนตรี พิริยะกุล. (2553). ตัวแบบเส้นทางกำลังสองน้อยที่สุดบางส่วน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สิริวรร พวงสว่าง. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจของพนักงานกับความผูกพันที่มีต่อองค์กร กรณีศึกษากลุ่มบริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน). ค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. สาขา การจัดการ. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ) กระทรวงอุตสาหกรรม. (2563). ภาพรวมเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของปี 2563 ภายใต้สภาวะโควิด-19. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2564, จาก https://www.oie.go.th.
Aladwan, S. A. T. (2017). The impact of TQM and service employee satisfaction on government service quality: an empirical study in the Jordanian public sector. Ph.D. Thesis. The University of Birmingham.
Eseleni, M. M. (2017). Developing a framework to improve employee engagement leveraging by organisational culture in banks for developing countries: a case study from Libya. Ph.D. Thesis. School of Aerospace Transport and Manufacturing.
Hair Jr, J. F., Sarstedt, M., Ringle, C. M., & Gudergan, S. P. (2017). Advanced issues in partial least squares structural equation modeling. saGe publications.
Kulsoom, A. U. (2020). Employees’ Engagement and Job Commitment in the Ministry of Youth and Sports, Maldives. The University of Liverpool (United Kingdom).
Mohamed, S. A., & Ali, M. (2016). The importance of supervisor support for employees’ affective commitment: An analysis of job satisfaction. International Journal of Scientific and Research Publications, 6(2), 435-439.
Shi, J. (2018). The Development of Strategic Human Resource Management in the Chinese Financial Services Sector: Understanding the Roles of External Economic Factors and the State. Ph.D. Thesis. The University of Leeds Leeds University Business School Work and Employment Relations Division.
Xaba, T. N. (2015). The effects of corporate rebranding on employee engagement:
evidence from the professional services industry of South Africa. Master’s degree of Management in Strategic Marketing. The Faculty of Commerce, Law and Management, Wits Business School, University of the Witwatersrand, Johannesburg, South Africa.