การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยภูมิหลังของบุคลากรที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร (2) เพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ ด้านการปฏิบัติงานในหน้าที่ ด้านคุณภาพในการปฏิบัติงาน และด้านความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน และ(3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครกลุ่มตัวอย่างใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครโดยมีจำนวน 120 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พร้อมทั้งการทดสอบสมมติฐาน ใช้สถิติ t-test และ F - test ที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ.001 และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ โดยมีผลการวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลการวิจัยพบว่า
1. ปัจจัยภูมิหลังของบุคลากรที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 80 คน มีอายุ 30 - 40 ปี จำนวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 49.1 มีระดับการศึกษาปริญญาตรี จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 81.7 มีสถานภาพสมรส จำนวน 109 คน คิดเป็นร้อยละ 90.8 มีระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 11 – 20 ปี จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 42.5 และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 - 20,000 บาท จำนวน 57 คน คิดเป็นร้อยละ 47.5 โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร โดยรวมมีค่าเฉลี่ย = 3.07 มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับไม่แน่ใจ และเมื่อพิจารณาในรายข้อคำถาม พบว่า ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความซื่อสัตย์ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด = 3.38 มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับไม่แน่ใจ รองลงมาการปฏิบัติงานของท่านมีการพัฒนาคุณภาพเป็นการเพิ่มคุณค่าในอาชีพ มีค่าเฉลี่ย = 3.26 และมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด = 2.85 ได้แก่ ท่านมีส่วนร่วมกับหน่วยงานในการรณรงค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับไม่แน่ใจ
2. การเปรียบเทียบความสัมพันธ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ผลการทดสอบสมมติฐานมีดังต่อไปนี้
(2.1) ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลกับภูมิหลังในเรื่องระดับการศึกษา ที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อเพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนบุคลากรที่มีเพศ อายุ สถานภาพสมรส ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และรายได้ต่อเดือน มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
(2.2) ด้านลักษณะของงานที่ปฏิบัติกับภูมิหลังในเรื่องเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และรายได้ต่อเดือน มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
(2.3) ด้านความรู้ความเข้าใจในการทำงานกับภูมิหลังในเรื่องเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรสและรายได้ต่อเดือนมีความคิดเห็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อเสนอแนะองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ต้องสนับสนุนให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการปฏิบัติงานให้เพิ่มมากขึ้นพร้อมทั้งสนับสนุนให้ศึกษาต่อเพื่อเพิ่มพูนความรู้ที่มีอยู่ เพื่อสามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเข้ารับการฝึกอบรม ศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้อย่างสม่ำเสมอ ๆ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
* อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาลัยกรุงเทพธนบุรี10170
Corresponding author: nattawan.ns@hotmail.com
Article Details
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2547). การคุ้มครองแรงงานในภาคการเกษตร. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 16 เมษายน 2560. จากhttps://www.labour.go.th/th/doc/law/agricultural_2547.pdf
กานดา จันทร์แย้ม (2546).จิตวิทยาอุตสาหกรรมเบื้องต้น . กรุงเทพมหานคร. โรงพิมพ์โอเดียนสโตร์
ธรรณชนก ประคองแก้ว. (2548). คุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจ. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ, มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม.
ปรียาพร วงศอ์นุตรโรจน์. (2547). จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : พิมพ์ดีจำกัด.
พนัส หันนาคินทร์. (2542). หลักการบริหารโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์วัฒนาพานิช
มนัสวี ธาดาสีห์. (2549). การเพิ่มผลผลิตกับคุณภาพชีวิตการทำงาน. วารสารเพื่อการเพิ่มผลผลิต .1 (1). 33-34.
วิไลวรรณ ศรีสงคราม. (2547). แรงจูงใจ:รากฐานในการพัฒนาศักยภาพของบุคคล. ปทุมธานี: สถาบัน เทคโนโลยีราชมงคล
วเรศ ทยามนัทิรนนัท์.(2547). ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตการทำงานกับความผูกพันต่อองค์การ กรณีฝ่ายปฏิบัติการคลังสินค้าการบินไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน). วิทยานิพนธ์ สาขาสังคมวิทยาประยุกต์.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศุภชัย ยาวะประภาษ. (2548). การบริหารงานบุคคลภาครัฐไทย : กระแสใหม่และสิ่งท้าทาย. กรุงเทพ ฯ : จุดทอง.
สมพร เฟื่องจันทร์. (2547). แนวคิดและหลักการจัดการในองค์การสาธารณะ. กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมยศ นาวกีาร. (2550). การบริหาร. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ
สมคิด บางโม. (2547) . องค์การและการจัดการ. กรุงเทพ ฯ : บริษัทจูนพับลิซซิ่งจํากัด
อุทัย เลาหวิเชียร. (2542). รัฐประศาสนศาสตร์ ; ลักษณะวิชาและมิติต่าง ๆ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์เสมาธรรม.
Davis, K. (1977). Human behavior at work. New York : McGraw – Hill.
Guest. (1982). A Comparative research in blended learning : state university vs. private university. Retrieved August 26, 2017 from https://hct. Fcs.sussex.ac.uk/Submissions/ 08.pdf
Froibe, D. M. & Bain, J. R. (1976). Quality Assurance Programs and Control in Nursing. Statements: The C.V. Mosby Co.
Hackman, R. J. & Suttle, L. J. (1977). Improving Life at Work; Behavioral. Science Approach to Organization Change. Santa Monica. Calif: Goodyear.
Jackson, S.E., Schuler, R.S., & Werner, S. (2009). Managing human resources. Mason, OH: South-Western Cengage Learning.