การมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่นในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาความสำเร็จการมีส่วนร่วมของผู้นำในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี (2) เพื่อศึกษาการบริหารการมีส่วนร่วมของผู้นำในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี (3) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้นำในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี และ(4) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่นในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี งานวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องและการสัมภาษณ์เจาะลึกกับบุคคลผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ใช้แบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้างประกอบกับการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม โดยมีกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ประธานหรือรองประธานสภา (อ.บ.จ.) นายกหรือรองนายก (อ.บ.จ.) ปลัดหรือรองปลัด (อ.บ.จ.) หัวหน้าส่วน, หัวหน้ากอง (อ.บ.จ.) สมาชิกสภา (อ.บ.จ.) และบุคลากร (อ.บ.จ.) ทั้งนี้ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงให้เกิดความสอดคล้องกันของเนื้อหาเพื่อให้ได้ข้อสรุปในการตอบคำถามของการศึกษา ซึ่งผลการวิจัยพบว่า
1. ความสำเร็จการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่นในเรื่องของนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ และเป้าหมาย ซึ่งมีความสอดคล้องและสนับสนุนให้บรรลุพันธกิจ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ รวมทั้งให้ส่วนราชการมีการวางแผนและบริหารกำลังคนทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
2. การบริหารการมีส่วนร่วมของผู้นำได้คำนึงถึงโดยบุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่บุคคลคิดถึงหรือมีความต้องการซึ่งเป็นลำดับรองลงมาจากเงินเดือน แรงจูงใจจะเป็นตัว ผลักดันหรือแรงขับให้บุคลากรทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายที่ท้าทายจะทำให้เขามีความรับผิดชอบ มีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่ จะทำงานให้ประสบความสำเร็จและจะใช้เป็นข้อมูลย้อนกลับเพื่อทำงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป
3. การมีส่วนร่วมของผู้นำในการบริหารงานขององค์การเนื่องจากหากผู้นำองค์การต้องมีความรู้ ความสามารถที่ดี สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้บุคลากรรู้สึกถึงความมั่นใจและมั่นคงของหน้าที่ในอนาคต และพร้อมที่จะฝากอนาคตการทำงานของตนเองให้องค์กรดูแลซึ่งความเชื่อมั่นเหล่านี้ย่อมส่งผลให้บุคลากรไม่ต้องคอยห่วงเรื่องความอยู่รอด ทำให้ทำงานได้อย่างมีความสุขต่อไป
ข้อเสนอแนะในครั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่แล้วผู้บริหารระดับสูงจะมีการมอบหมายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาระดับต่อไปเมื่อมีการสั่งงานเพื่อให้บุคคลนั้นสามารถปฏิบัติงานส่วนมากแล้วอำนาจหน้าที่จะต้องมีอำนาจในการสั่งการและการตัดสินใจควบคู่กันไปด้วยโดยรู้จักการสั่งการ คือมอบหมายงานให้กับใต้ผู้บังคับบัญชาทำงานอย่างต่อเนื่องและตัดสินใจ อีกทั้งในเรื่องของผู้บังคับบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงานมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้สึกพอใจหรือไม่พอใจต่องานได้และการบังคับบัญชาที่ไม่ดี อาจเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการขาดงานและลาออกจากงานได้ความเชื่อถือต่อความสามารถของหัวหน้างาน มีแนวโน้มที่จะมีความพอใจในงานระดับสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อหัวหน้าปฏิบัติต่อตนอย่างให้เกียรติ และคอยดูแลปกป้องผลประโยชน์ของลูกน้อง นอกจากนี้ความพอใจในงานจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดวามรู้สึกกระตือรือร้นมีขวัญกำลังใจมีทัศนคติที่ดีมีความมุ่งมั่นปฏิบัติงานนั้นทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิผลต่อการบริหารงานของผู้นำต่อไป
* นักศึกษาปริญญาเอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ ดร.อนันต์ โพธิกุล
Corresponding author : anan_pho@hotmail.com
Article Details
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
ธีรยุทธ หล่อเลิศรัตน์. (2543). การบริหารงานบุคคลของรัฐ. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ และคณะ. (2554). การจัดการเชิงกลยุทธ์ : บริษัทพิมพ์ดีการพิมพ์ จำกัด กรุงเทพมหานคร.
สุจิตรา บุณยรัตนพันธุ์. (2546). ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับรัฐประศาสนศาสตร. พิมพ์ครั้งที่7. กรุงเทพมหานคร : คณะรัฐประศาสนศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
อุทัย เลาหวิเชียร. (2543). รัฐประศาสนศาสตร์ ลักษณะวิชาและมิติต่าง ๆ (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์เสมาธรรม.
อำนวย แสงสว่าง. (2544). หลักการจัดการทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ : อักษราพิพัฒน์.
Certo, Samuel C. (2000). การจัดการสมัยใหม่. แปลจากเรื่อง Modern management (พัชนี นนท-ศักดิ์ และปิยะพันธ์ ปิงเมือง, แปล). กรุงเทพฯ : เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า.
Delahaye, B. L. (2005). Human Resource Development : Adult Learning and KnowledgeManagement. 2nd ed. Milton, Qld : John Wiley Press.
Swart ed al. (2005).Analysis for Improving Performance : Tools for DiagnosingOrganizations and Documenting Workplace Expertise. San Francisco : BerrettKoehler.