พฤติกรรมและส่วนประสมทางการตลาดบริการ ที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทํางาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

Main Article Content

ณัฎฐณิชชา ลาภทวี
กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ์

บทคัดย่อ

                การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สำรวจพฤติกรรมในการเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล  (2) ศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโยคะของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (3) จำแนกการเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตามคุณลักษณะส่วนบุคคล และพฤติกรรมใช้บริการ  (4) ศึกษาอิทธิพลจากส่วนประสมทางการตลาดบริการ ที่ส่งผลต่อ การเลือกใช้บริการโยคะของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กลุ่มตัวอย่างได้จากการคำนวณ ด้วยวิธีของ Cochran จำนวน 400 ราย จากผู้หญิงวัยทำงาน ด้วยวิธีการสุ่มตามสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว และการวิเคราะห์ค่าถดถอยพหุคูณแบบขั้นบันได
                ผลการวิจัยพบว่า เพศหญิงวัยทำงานที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ 21-30 ปี สถานภาพโสด ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพได้แก่ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีรายได้ช่วง 20,001-30,000 บาท สำหรับพฤติกรรมการออกกำลังกายโดยการฝึกโยคะ (1) ผลการสำรวจพฤติกรรมในการเลือกใช้บริการพบว่า ระยะเวลาในการฝึกโยคะอยู่ในช่วง 1-2 ปี บุคคลที่ผู้ตอบแบบสอบถามมักจะไปฝึกโยคะด้วยได้แก่เพื่อน ช่วงเวลาการฝึกอยู่ในช่วง 08.00-12.00 น. แหล่งข้อมูลที่ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถาม ตัดสินใจมาสถานบริการฝึกโยคะได้แก่ แผ่นพับ/ใบปลิว ราคาค่าสมาชิกที่จ่ายต่อการเรียนใน 1 ชั่วโมง อยู่ที่ 250-300 บาท ช่องทางการชำระเงินที่สะดวกเมื่อซื้อสมาชิกได้แก่ผ่านบัตรเครดิต สถานที่โยคะ ที่เลือกฝึกโยคะจะเน้นอยู่ใกล้ที่ทำงาน  ผู้ที่มีอิทธิพลในการซื้อ คลาส โยคะได้แก่ คนในครอบครัว  ประเภทของโยคะ ที่เลือกฝึกส่วนใหญคือ JOINT THERAPY (2) ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทำงานที่ได้รับการประเมิน ในสามลำดับแรกได้แก่ ปัจจัยด้านสถานที่ การส่งเสริมการตลาด และบุคลากร ตามลำดับ (3) ผลการวิเคราะห์การเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคล พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนการเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำแนกตามพฤติกรรมการใช้บริการ พบว่าส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยกเว้น แหล่งข้อมูลที่ทำให้ตัดสินใจมาสถานบริการฝึกโยคะ ช่องทางการชำระเงินที่สะดวกเมื่อซื้อสมาชิกผู้ที่มีอิทธิพลในการซื้อ คลาส โยคะ และประเภทของโยคะ ที่เลือกฝึก พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ (4) อิทธิพลจากส่วนประสมทางการตลาดบริการส่งผลต่อ การเลือกใช้บริการโยคะของเพศหญิงวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เกิดจากปัจจัยด้านการส่งเสริมทางการตลาด (β = 0.41 ) ด้านกายภาพ (β = 0.38) และด้านช่องทางการจัดจำหน่าย (β = 0.12) โดยสมการมีอำนาจในการทำนายร้อยละ 67


* นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
** รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต 
Corresponding author : nutthanicha.kaow@gmail.com

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ลาภทวี ณ., & คงสวัสดิ์เกียรติ์ ก. (2018). พฤติกรรมและส่วนประสมทางการตลาดบริการ ที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการโยคะ ของเพศหญิงวัยทํางาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม, 3(1), 80–90. https://doi.org/10.14456/jmsnpru.2016.8
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. (2558). รายงานสถิติจำนวนประชากร และบ้านทั่วประเทศ และรายจังหวัด ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2555 [ออนไลน์] ค้นเมื่อ 3 เมษายน 2559. จาก https://stat.dopa.go.th/xstat/pop55_1.html 2555.

กระทรวงสาธารณสุข. หน่วยงานแพทย์แผนไทย. (2557). สถานบริการฟิตเนสที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ : หน่วยงานแพทย์แผนไทย.

กฤษณา รัตนพฤกษ์. (2545). การตลาดบริการ. เชียงใหม่ : ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ปทิตตา รุ่งอรุณสุวรรณ. (2553). ความคาดหวังของลูกค้า ที่มีต่อส่วนประสมการตลาดบริการของสถานบริการฝึกโยคะ. ในจังหวัดนนทบุรี. การค้นคว้าแบบอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปุญชรัสมิ์ พัชรเรืองกิตติ์. (2552). ปัจจัยส่วนประสมทางตลาดบริการที่มีผลต่อการเลือกใช้สถานบริการฝึกโยคะของผู้บริโภคในพื้นที่กรุงธนใต้. การค้นคว้าแบบอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2546). การบริหารการตลาดยุคใหม่. กรุงเทพฯ : ไดมอน อิน บิสสิเน็ต เวิร์ล.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2559). การสำรวจพฤติกรรมการออกกำลังกายของประชากร พ.ศ. 2557. [ออนไลน์] ค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2559. จาก https://sevice.nso.go.th/nso/nsopublish.

อมรชัย มหัตกีรติ. (2550). ความคิดเห็นทางด้านส่วนประสมทางการตลาดของผู้ที่สนใจออกกำลังกายด้วยการฝึกโยคะในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ.

อังษณา แก้วประเสริฐ. (2547). ผลของการออกกำลังกายแบบโยคะและแบบแอโรบิคที่มีต่อสมรรถภาพปอดในผู้ป่วยโรคหอบหืด. บัณฑิตวิทยาลัย.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

เอนก ยุวจิตติ และสุนีย์ ยุวจิตติ. (2549). โยคะ พิชิตโรค. กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ.

Cochran, W.G. (1953). Sampling Techniques. Experimental Designs, New York. Cuyno.

Kotler, P. and Keller, K.L. (2005). Marketing Management. (12th Ed.). NY. Prentice Hall.