ปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี 2) เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 364 ชุด โดยใช้หลักเกณฑ์ของการวิจัยเชิงปริมาณ กำหนดตัวแปรด้วยวิธีการเชิงนิรนัยในการนำแนวคิดจากทฤษฏีต่างๆ มาสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติพิสูจน์ตัวแปรเชิงสหสัมพันธ์เพื่อสรุปอ้างอิง หาคำตอบด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ เพื่อใช้ในการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับความเป็นอิสระระหว่างตัวแปรเชิงกลุ่ม เพื่อนำมาใช้อธิบายผลการวิจัยที่ได้จากข้อมูลประกอบการอภิปรายผล
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 70.3 มีอายุระหว่าง 18-20 ปี คิดเป็นร้อยละ 47.0 ชั้นปีที่กำลังศึกษา พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 39.0 ด้านอาชีพหลักผู้ปกครอง พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ผู้ปกครองประกอบอาชีพ อาชีพธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย คิดเป็นร้อยละ 36.3 ด้านรายได้ในครอบครัวพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ครอบครัวส่วนใหญ่มีรายได้ 20,000-24,999 บาท คิดเป็นร้อยละ 25.5 ส่วนพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัย คณะฯ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ทำประโยชน์ โดยเข้าร่วมกิจกรรมสม่ำเสมอ คิดเป็นร้อยละ 43.4 ปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ได้แก่ ปัจจัยด้านเพื่อน (β = 0.52) ด้านสถานศึกษา (β = 0.34) ด้านทัศนคติ (β = 0.13) และด้านครอบครัว (β = 0.13) ตามลำดับ โดยตัวแบบดังกล่าวมีอำนาจการพยากรณ์เท่ากับ 0.84 ความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี พบว่า ความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อการมีจิตอาสาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี อย่างมีนัยสำคัญทุกด้าน โดยปัจจัยที่มีความสัมพันธ์สูงสุดได้แก่ ปัจจัยด้านทัศนคติและครอบครัว (r =0.60) ปัจจัยด้านสถานศึกษาและเพื่อน (r =0.58) ปัจจัยด้านครอบครัวและสถานศึกษา (r =0.50) ตามลำดับ
*อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
**อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการค้าปลีก คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
Corresponding author : jassiga_k@hotmail.com
Article Details
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
References
โกวิทย์ พวงงาม. (20 -26เมษายน2550). การพัฒนาสังคมไทยวันนี้กับคุณธรรมและจิตสำนึกที่หายไป. วารสารสยามรัฐวิจารณ์, 54 (30), 3.
ณัฐณิชากร ศรบริบูรณ์. (2550). การพัฒนาโมเดลเชิงสาเหตุของจิตอาสาของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนลังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นริศรา ริชาร์ดสัน. (2546). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการให้เหตุผลเชิงจริยธรรมด้านความเสียสละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. คณะศึกษาศาสตร์. สาขาจิตวิทยาการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
พิชญาณี กิติกุล.(2549). วิธีวิจัยทางธุรกิจ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพบูลย์ วัฒนธรรมศิริ, และ สังคม สัญจร. (2543). สำนึกไทยที่พึงปรารถนา. กรุงเทพฯ : บริษัทโรงพิมพ์เดือนตุลา.
ศูนย์คุณธรรมและสถาบันรักลูก. (2550). ฉันจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้มีแต่รอยยิ้ม ในโครงการการพัฒนาคุณธรรมในชุมชน. กรุงเทพฯ : บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด.
สุจิตรา โอฬารกิจวานิช. (2547). การสนับสนุนทางสังคมกับคุณภาพชีวิตของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นจังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. สาขาพัฒนาสังคม.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุพจน์ ทรายแก้ว. (มกราคม-มิถุนายน 2546). จิตสำนึกสาธารณะ การก่อรูปและกระบวนการ เสริมสร้าง. วารสารเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์, 4, 55.
สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน. (2556). ข้อมูลงานทะเบียน. มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี.
อรพินทร์ ชูชม อัจฉรา สุขารมณ์ และ อุษา ศรีจินดารัตน์ (2549). การวิเคราะห์ปัจจัยทางจิตสังคมที่สัมพันธ์กับจิตสำนึกทาง ปัญญาและคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย. วารสารพฤติกรรมศาสตร์. 12 (1).
อนุศักดิ์ จินดา. (2548). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของตัวแปรที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดสระบุรี. ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต.คณะศึกษาศาสตร์, สาขาการวิจัยและ สถิติทางการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
Thoits, P. A. (June, 1982). Conceptual, Methodological and Theoretical Problem in Studying Social as a Buffer against Life Stress. Journal of Health and Behavior, 23(3), 145.