ความสามารถในการบริหารจัดการและการสนองตอบต่อภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ขององค์การที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ

Prapon Sahapattana; Kullatip Satararuji; Phichai Ratnatilaka Na Bhuket; Pornpun Prajaknate; Pornlert Arpanutud; Gorn Huvanandana

ผู้แต่ง

Prapon Sahapattana Graduate School of Public Administration, National Institute of Development Administration.
Kullatip Satararuji Graduate School of Communication Arts and Management Innovation.
Phichai Ratnatilaka Na Bhuket Graduate School of Social Development and Management Strategy.
Pornpun Prajaknate Graduate School of Communication Arts and Management Innovation.
Pornlert Arpanutud School of Liberal Arts, King Mongkut’s University of Technology Thonburi.
Gorn Huvanandana Graduate School of Public Administration, National Institute of Development Administration.

คำสำคัญ:

Capabilities in management, crisis response, organizations established under a special act

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการบริหารจัดการ และการสนองตอบต่อภาวะวิกฤติ (การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19) ขององค์การที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ โดยเน้นวิธีการเชิงคุณภาพเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึก ผ่านการวิเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และ
การสัมภาษณ์กลุ่ม ผลการศึกษาพบว่า 1) องค์กรมีการเตรียมความพร้อมในการตั้งรับและตอบสนองต่อภาวะวิกฤตการณ์ มีการจัดทำแผนการบริหารความต่อเนื่องที่สามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างทันท่วงที
2) องค์การมีการปรับกระบวนการทำงานโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน

สู่ดิจิทัล 3) องค์กรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากที่ใดก็ได้ เนื่องจากองค์การที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะมีความคล่องตัวและว่องไวสามารถปรับเปลี่ยนแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงและพลิกผัน 4) องค์กรมีความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เนื่องจากองค์กรเหล่านี้มีพันธกิจและภารกิจเฉพาะ ทำให้มีความหลากหลายในกลุ่มของผู้มีส่วนได้เสีย ความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการบรรลุเป้าหมายและพันธกิจขององค์กร อย่างไรก็ตาม องค์กรก็เผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 คือ ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการและการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก และปัญหาทางด้านงบประมาณ

คำสำคัญ: ความสามารถในการบริหารจัดการ การตอบสนองต่อภาวะวิกฤต องค์การที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ

เอกสารอ้างอิง

Henry, N. (1995). Public Administration and Public Affairs. Englewood Cliffs: Prentice-Hall.

Hood, C. C. (1991). A Public Management for All Seasons?. Public Administration. 69, 3-19.

Kariji, K., & Vinijnaiyapak, N. (2020). Collaborative Governance in the industrial project for sustainable job creation in 3 southern border provinces. Journal of Politics and Governance, 10(2), 1-20.

Kettl, D. F. (2011). Sharing power: Public governance and private markets. Brookings Institution Press.

Osborne, S.P. (2010). Introduction: The (New) Public Governance: A Suitable Case for Treatment?. In The New Public Governance?: Emerging Perspectives on the Theory and Practice of Public Governance. Stephen P. Osborne (ed.). London: Routledge.

Pollitt, C., et al. (2001). Agency fever? Analysis of an international policy fashion. Journal of Comparative Policy Analysis: Research and Practice. 3(3), 271–90.

Sadka, E. (2006). Public-Private Partnerships: A Public Economics Perspective. IMF Working Paper No. 06/77, Available at SSRN: https://ssrn.com/abstract=901868

Tangsupvattana, A., et al. (2011). Words and Ideas in Contemporary Politics (3rd edition). Bangkok : Chulalongkorn University

United Nations Department of Economic and Social Affairs. (2015). Responsive and Accountable Public Governance: World Public Sector Report 2015. Retrieved from https://publicadministration.un.org/publications/content/PDF/World%20Public%20Sector%20Report2015.pdf

USAID/COLOMBIA. (2020). FACT SHEET: RESPONSIVE GOVERNANCE. Retrieved from https://www.usaid.gov/sites/default/files/documents/Responsive_Governance_fact_sheet_4.5.21.pdf

Van de Walle, S. & Hammerschmid, G. (2011). The Impact of the New Public Management: Challenges for Coordination and Cohesion in European Public Sectors. Halduskultuur, 12(2), 190-209.