การศึกษาแผนใหม่สำหรับสตรีในเยอรมนีตั้งแต่ทศวรรษ 1870 - 1960
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงพัฒนาการของการศึกษาแผนใหม่สำหรับสตรีในประเทศเยอรมนี นับตั้งแต่การรวมชาติและการก่อตั้งจักรวรรดิเยอรมนีเมื่อ ค.ศ. 1871 จนถึงปลายทศวรรษ 1960 อันเป็นยุคของการปฏิวัติของนักศึกษาและการเริ่มต้นคลื่นที่สองของขบวนการสตรีนิยมในเยอรมนีตะวันตก โดยจะเน้นความสำคัญที่พัฒนาการของการศึกษาแผนใหม่สำหรับสตรีระยะแรกเริ่มที่เกิดขึ้นในสมัยจักรวรรดิเยอรมนี (ค.ศ. 1871-1918) นอกจากนี้ บทความนี้ยังมุ่งแสดงให้เห็นด้วยว่า การศึกษาแผนใหม่เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยการต่อสู้ที่เข้มแข็งของสตรี เริ่มจากการพัฒนาโรงเรียนระดับสูงสำหรับเด็กหญิง การปรับปรุงคุณภาพและยกระดับวิชาชีพครูสตรี และการเปิดรับผู้หญิงสู่โลกอุดมศึกษา การศึกษาสตรีแผนใหม่เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสตรีเยอรมัน และเป็นพัฒนาการที่นำไปสู่ความเสมอภาคระหว่างเพศชายและหญิงในสังคมเยอรมันอย่างถาวร
Modern Education for Women in Germany, 1870-1960
The objective of this paper is to present the development of modern education for German women from unification and establishment of the German Empire in 1871 to the latter part of the 1960s, which was marked by student protests and the advent of the second wave of feminism in West Germany. Emphasis is placed on the development of modern education for women in the early years during the German Empire era (1871-1918). The paper also aims to demonstrate that modern education was earned as the result of a rigorous struggle on the part of women beginning with the efforts to develop advanced schooling for girls, then the development of the quality of education and the upgrading of vocational education for women and, lastly, with the opening up of opportunities for women to enter the world of tertiary education. Modern education for women has played an important part in changing the status of German women and has brought about a change in the status of women in Germany a development that ultimately paved the way for gender equality in that society.
ดาวน์โหลด
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
การป้องกันปัญหาด้านลิขสิทธิ์และการคัดลอกผลงาน
ผู้เขียนบทความมีหน้าที่ในการขออนุญาตใช้วัสดุที่มีลิขสิทธิ์คุ้มครองจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการคัดลอกและทำสำเนาวัสดุที่มีลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัด การคัดลอกข้อความและการกล่าวพาดพิงถึงเนื้อหาจากวัสดุตีพิมพ์อื่น ต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มากำกับและระบุแหล่งที่มาให้ชัดเจนในส่วนบรรณานุกรม การคัดลอกข้อความหรือเนื้อหาจากแหล่งอื่นโดยไม่มีการอ้างอิงถือเป็นการละเมิดจริยธรรมทางวิชาการที่ร้ายแรง และเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆ เกิดขึ้น ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบทางกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว