การตัดสินความสุภาพจากถ้อยคำการตอบกลับการตำหนิในภาษาไทย:
มุมมองจากคนสองวัย
คำสำคัญ:
การตัดสิน, ความสุภาพ, อายุ, วัยรุ่น, วัยผู้ใหญ่, การตัดสินความสุภาพ, ช่องว่างระหว่างวัยบทคัดย่อ
การตัดสินว่าการกระทำหรือถ้อยคำใดสุภาพหรือไม่สุภาพนั้นย่อมขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ฟังเป็นหลัก เนื่องจากหากผู้พูดเลือกใช้ถ้อยคำที่ดูเหมือนไม่สุภาพกับผู้ฟัง แต่ผู้ฟังไม่ได้เห็นว่าถ้อยคำเหล่านั้นมีลักษณะที่ไม่สุภาพ ถ้อยคำดังกล่าวก็จะถือได้ว่าไม่ใช่คำที่ไม่สุภาพ อย่างไรก็ดี มุมมองความสุภาพที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นย่อมแปรผันไปตามช่วงวัยของผู้ฟังด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ การตระหนักรู้ถึงมุมมองความสุภาพของผู้ร่วมสนทนาต่างวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้ผู้ร่วมสนทนาที่มีช่วงวัยต่างกันเข้าใจมุมมองความสุภาพของแต่ละฝ่าย ส่งผลให้การสื่อสารเป็นไปด้วยความราบรื่น บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการตัดสินระดับความสุภาพของถ้อยคำซึ่งนำมาจากบทละครโทรทัศน์ที่วัยรุ่นใช้ในการตอบกลับการถูกตำหนิจากผู้ปกครองในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 2 ช่วงวัย ได้แก่ วัยรุ่น 30 คน และวัยผู้ใหญ่ 30 คน ผลการศึกษาพบว่าการตัดสินความสุภาพของถ้อยคำระหว่างกลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่แตกต่างกัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากการมีมุมมองต่อความสุภาพของถ้อยคำแตกต่างกัน ทั้งนี้สามารถสะท้อนให้เห็นได้จากการให้เหตุผลสนับสนุนการตัดสินความสุภาพของถ้อยคำ ซึ่งพบว่ากลุ่มวัยผู้ใหญ่ให้ความสำคัญกับเหตุผลด้านพฤติกรรมเชิงลบ เช่น การแสดงอารมณ์โมโห การโต้เถียง การแสดงความก้าวร้าว เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นมองว่าการอธิบายหรือชี้แจงเหตุผลเป็นประเด็นหลักในการพิจารณาตัดสินความสุภาพของถ้อยคำ
เอกสารอ้างอิง
Thasanee Mekthawornwathana ทัศนีย์ เมฆถาวรวัฒนา. 2011. Patchai thi Chai nai Kan Tatsin “Kwam Supap” nai Kan Sontana khong Phet Chai lae Phet Ying nai klum Tuayang Radap Udomsueksa khong Thai ปัจจัยที่ใช้ในการตัดสิน “ความสุภาพ” ในการสนทนาของเพศชายและเพศหญิงในกลุ่มตัวอย่างระดับอุดมศึกษาของไทย. [The Factors Used for Identifying “Politeness” in Male and Female Conversations among Thai Undergraduate Students.] Warasarn Pattana Borihansart วารสารพัฒนบริหารศาสตร์ [NIDA Development Journal] 51: 141-166.
The Royal Institute ราชบัณฑิตยสถาน. 2010. Photchananukrom Sub Phasasat (Phasasat Prayuk) Chabup Ratchabundittayasathan พจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์ประยุกต์) ฉบับราชบัณฑิตยสถาน [Dictionary of Linguistics (Applied Linguistics), The Royal Institute Version]. Bangkok: The Royal Institute.
ภาษาอังกฤษ
Brown, P., & Levinson, S. 1978. Universals in Language Usage: Politeness Phenomena. In Questions and Politeness: Strategies in Social Interaction, ed. Esther N. Goody, 56-310. Cambridge: Cambridge University Press.
Brown, P., & Levinson, S. 1987. Politeness: Some Universals in Language Usage. vol. 4. Cambridge University Press.
Carrell, P. L., & Konneker, B. H. 1981. Politeness: Comparing Native and Nonnative Judgments. Language Learning 31(1): 17-30.
Fraser, B., & Nolen, W. 1981. The Association of Deference with Linguistic Form. International Journal of the Sociology of Language 1981(27): 93-110.
Goffman, E. 1967. Interaction Ritual: Essays on Face-to-Face Interaction. Oxford, England: Aldine.
Hall, Edward T. 1976. Beyond Culture. New York: Double Day.
Ide, Sachiko. 1989. Formal Forms and Discernment: Two Neglected Aspects of Universals of Linguistic Politeness. Multilingua-Journal of Cross-Cultural and Interlanguage Communication 8(2-3): 223-248.
O'Dwyer, L. M., & Bernauer, J. A. 2013. Quantitative Research for the Qualitative Researcher. California: Sage Publications.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
การป้องกันปัญหาด้านลิขสิทธิ์และการคัดลอกผลงาน
ผู้เขียนบทความมีหน้าที่ในการขออนุญาตใช้วัสดุที่มีลิขสิทธิ์คุ้มครองจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการคัดลอกและทำสำเนาวัสดุที่มีลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัด การคัดลอกข้อความและการกล่าวพาดพิงถึงเนื้อหาจากวัสดุตีพิมพ์อื่น ต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มากำกับและระบุแหล่งที่มาให้ชัดเจนในส่วนบรรณานุกรม การคัดลอกข้อความหรือเนื้อหาจากแหล่งอื่นโดยไม่มีการอ้างอิงถือเป็นการละเมิดจริยธรรมทางวิชาการที่ร้ายแรง และเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆ เกิดขึ้น ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบทางกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว