ผลของกิจกรรมตามแนวพุทธจิตวิทยาบูรณาการแพทย์แผนไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวคิดพุทธจิตวิทยา

Main Article Content

ชำมะนาฏแสนยากร ช่วยกันจักร์

บทคัดย่อ

วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัญหาด้านสุขภาวะของผู้สูงอายุ 2) เพื่อสร้างกิจกรรมตามแนวพุทธจิตวิทยาบูรณาการแพทย์แผนไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวคิดพุทธจิตวิทยา 3) เพื่อนำเสนอผลของกิจกรรมตามแนวพุทธจิตวิทยาบูรณาการแพทย์แผนไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวคิดพุทธจิตวิทยา เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ทั้งชายและหญิง ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการสังเกตและบันทึกข้อมูลความถี่ของแบบสังเกตพฤติกรรมโดยใช้การบันทึกแบบช่วงเวลา (interval recording) และการทดสอบจากแบบวัดประเมินผลดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุ วิเคราะห์โดยใช้สถิติบรรยาย เช่น ค่าเฉลี่ย ร้อยละ เป็นต้น การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของแบบวัดประเมินผลดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุ ของกลุ่มทดลอง ก่อนการทดลองและหลังการทดลองใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติทดสอบทีแบบไม่เป็นอิสระ (dependent sample t-test) ส่วนการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของแบบวัดประเมินผลดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุ กลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม ใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติทดสอบทีแบบเป็นอิสระ (independent sample t-test) และข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จะนำมาวิเคราะห์ประเด็น และนำเสนอในรูปแบบการบรรยาย ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการศึกษาปัญหาด้านสุขภาวะของผู้สูงอายุ สุขภาวะหรือดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสังคม และ ด้านปัญญา พบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ (ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม) มีปัญหาของสุขภาวะ (ดุลยภาพองค์รวมทุกด้าน) โดยที่ทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม มีคะแนนเฉลี่ยดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุรายด้านก่อนการทดลอง ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังละเลยการดูแลสุขภาวะของตัวเองอย่างมาก มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่มีการดูแลสุขภาวะของตัวเองได้ดี 2) ผลการการสร้างกิจกรรมตามแนวพุทธจิตวิทยาบูรณาการแพทย์แผนไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุ โดยมีกิจกรรมดังนี้ ฝึกอบรมกิจกรรมการฝึกการเดินลมหายใจ, ฝึกการทรงตัว,การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ, ฝึกหายใจ, การแนะนำอาหารเป็นยาตามฤดูกาล, แนะนำการป้องกันโรคเบื้องต้น, กิจกรรมเข้าจังหวะโดยสลับหมุนลำดับกิจกรรม ให้ครบ 8 วัน เพื่อให้ผู้สูงอายุปรับสภาพสุขภาวะทุกด้านให้ดีขึ้น ทางด้านร่างกายจะช่วยให้ร่างกายของผู้สูงอายุ ฝึกความยืดหยุ่นของร่างกาย ทางด้านอารมณ์ ฝึกการควบคุมของอารมณ์ ทางด้านสังคม ฝึกการปรับตัวเข้ากับสังคม โดยการทำกิจกรรมร่วมกัน ละลายพฤติกรรม และด้านปัญญา เข้าใจเหตุผลรู้หน้าที่ต่อดุลยภาพองค์รวมของตัวเอง 3) คะแนนเฉลี่ยดุลยภาพองค์รวมของผู้สูงอายุรายด้านระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ โดยด้านกายภาพค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลอง 2.9600 ของกลุ่มควบคุม 2.0867 ด้านอารมณ์ค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลอง 3.5400 ของกลุ่มควบคุม 2.3867 ด้านสังคมค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลอง 3.7200 ของกลุ่มควบคุม 2.3667 และด้านปัญญาค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลอง 3.2267 ของกลุ่มควบคุม 2.1600

Article Details

How to Cite
ช่วยกันจักร์ ช. (2021). ผลของกิจกรรมตามแนวพุทธจิตวิทยาบูรณาการแพทย์แผนไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวคิดพุทธจิตวิทยา. วารสารพุทธจิตวิทยา, 6(2), 116–124. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jbp/article/view/252847
บท
บทความวิจัย

References

วิชนี คุปตะวาทิน. (2561). สังคมสูงวัยกับโลกสมัยใหม่. วารสารวิชาการสถาบันเทคโนโลยีสุวรรณภูมิ, 61 (ฉบับพิเศษ), 445.

มณรัตน์ นิ่มสกุล. (2561). พุทธจิตวิทยาบูรณาการเพื่อดุลยภาพองค์รวมผู้สูงอายุด้วยกระบวนการโยคะ. (ดุษฏีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ประยงค์ ศรไชยและคณะ. (2559). ศึกษารูปแบบแนวทางการเสริมสร้างสุขภาวะของผู้สูงอายุตามหลักพระพุทธศาสนา ในจังหวัดอุบลราชธานี (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี.