ทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลจำแนกตาม อายุ อาชีพ สถานภาพสมรส และรายได้ กับทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทสื่อกับทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้ได้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 400 คน ซึ่งเป็นการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มโดยบังเอิญ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์

           ผลการวิจัยพบว่า ทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครอยู่ในระดับสูง และเมื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลแล้ว พบว่า เพศและอาชีพที่แตกต่างกันมีทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ 0.05 การมีส่วนร่วมทางการเมืองมีความสัมพันธ์กับทัศนคติของประชาชนต่อการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร