ความสำคัญของร่างกายที่มีต่อระบบความคิด
คำสำคัญ:
ร่างกาย, ระบบความคิด, การสร้างความหมาย, ผังภาพ, อุปลักษณ์, body, cognitive system, meaning construction, image schema, metaphorบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของร่างกายที่มีต่อระบบความคิด การทำความเข้าใจ และการสร้างความหมายให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวของมนุษย์ โดยกล่าวถึงแนวคิดที่แตกต่างกันในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายกับความคิดของมนุษย์ ได้แก่ แนวคิดภววิสัยนิยม (objectivism) ที่แยกร่างกายกับความคิดออกจากกัน และกล่าวว่าร่างกายไม่มีบทบาทในการทำความเข้าใจและการใช้เหตุผล อีกแนวคิดหนึ่งคือความคิดมีความสัมพันธ์กับร่างกายของมนุษย์ (embodied mind) ที่เชื่อว่าร่างกายของมนุษย์มีบทบาทสำคัญและเป็นพื้นฐานที่ทำให้เกิดความเข้าใจ นอกจากนี้ยังได้อธิบายแนวคิดเกี่ยวกับผังภาพและอุปลักษณ์ ซึ่งเป็นโครงสร้างทางความคิดที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ทางร่างกาย และความสัมพันธ์ของผังภาพและอุปลักษณ์ที่มีต่อระบบความคิดของมนุษย์ ในลำดับสุดท้ายได้กล่าวถึงงานวิจัยที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว
The Importance of Body to Cognitive System
Nuntana Wongthai
Lecturer, Department of Linguistics, Faculty of Humanities, Srinakharinwirot University
This article aims to expose the importance of body to the human’s cognitive system and how we understand and apply meaning to things we interact in the world. Two different approaches about body and human understanding, which are objectivism and embodied mind, are discussed. The former divides body and cognition and claims that body has no role in understanding and rationality, whereas the latter believes that human body and embodied experiences play key roles as basis of understanding. The article also explains the cognitive structures emerging from bodily experiences: image schema and metaphor, and their relationships in human cognition. Previous research is also referred to support the claims.
ดาวน์โหลด
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
การป้องกันปัญหาด้านลิขสิทธิ์และการคัดลอกผลงาน
ผู้เขียนบทความมีหน้าที่ในการขออนุญาตใช้วัสดุที่มีลิขสิทธิ์คุ้มครองจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการคัดลอกและทำสำเนาวัสดุที่มีลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัด การคัดลอกข้อความและการกล่าวพาดพิงถึงเนื้อหาจากวัสดุตีพิมพ์อื่น ต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มากำกับและระบุแหล่งที่มาให้ชัดเจนในส่วนบรรณานุกรม การคัดลอกข้อความหรือเนื้อหาจากแหล่งอื่นโดยไม่มีการอ้างอิงถือเป็นการละเมิดจริยธรรมทางวิชาการที่ร้ายแรง และเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆ เกิดขึ้น ผู้เขียนบทความมีความรับผิดชอบทางกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว