ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู โรงเรียนพระปริยัติธรรม สังกัดสำนักเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เขต 5 จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • พระมหาวรัฏฐนน แสงศรี Master of Educational Administration, Graduate School, Chiangrai College
  • เชิดศักดิ์ ศุภโสภณ Lecturer of Educational Administration, Graduate School, Chiangrai College
  • วีรพันธุ์ ศิริฤทธิ์ Lecturer of Educational Administration, Graduate School, Chiangrai College. Corresponding author

คำสำคัญ:

ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21, แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู, โรงเรียนพระปริยัติธรรม

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนพระปริยัติธรรม 2) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม และ 3) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียน พระปริยัติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 162 รูป/คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษ ที่ 21 ที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู และแบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

           ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 มีค่า S.D เท่ากับ 0.233) 2) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 มีค่า S.D เท่ากับ 0.175) และ 3) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ด้านผู้นำที่มีอิทธิพลต่อเพื่อน (X4) และด้านผู้นำที่มีศิลปะในการนำ (X2) ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู โดยภาพรวม ( ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณในการทำนายเท่ากับ 0.255 มีประสิทธิภาพการทำนาย ร้อยละ 5.3 และความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการทำนาย 0.170 ซึ่งเขียนเป็นสมการวิเคราะห์การถดถอย ได้ดังนี้

  =  4.284 – 0.058 X4 +0.064 X2

    

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-06-04

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)