หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาหลักธรรมาภิบาลสำหรับใช้ในการบริหารสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา 2) เปรียบเทียบหลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามตำแหน่งและประสบการณ์ทำงาน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 2,080 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตารางเครจซี่และมอร์แกน จำนวน 328 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test วิเคราะห์รายคู่ของ เชฟเฟ่ (Scheffe’)

           ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ได้แก่ หลักความคุ้มค่า หลักการมีส่วนร่วม และหลักความโปร่งใส 2) ผลการเปรียบเทียบการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (1) จำแนกตามตำแหน่ง พบว่า โดยภาพรวมและรายด้านมีความแตกต่างกัน คือ ด้านหลักนิติธรรม (2) จำแนกตามประสบการณ์ พบว่าโดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านหลักความคุ้มค่ามีความแตกต่าง เมื่อทดสอบรายคู่พบว่าความคิดเห็นของบุคลากรที่มีประสบการณ์ 1-10 ปี แตกต่างจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ 11 ปีขึ้นไป อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05