พฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) การยอมรับและใช้เทคโนโลยี 2) ทัศนคติ 3) พฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet 4) เปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล5) การยอมรับและใช้เทคโนโลยีมีผลต่อพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet และ 6) ทัศนคติมีผลต่อพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ วิธีดำเนินการวิจัย ศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ใช้แบบสอบถามจำนวน 400 ชุด สถิติที่ใช้คือ ไคสแควร์ (Chi-Square) และ Multiple Regression  Analysis

           ผลการวิจัย พบว่า

1. ผู้ตอบแบบสอบถามโดยส่วนมากนั้นเป็นเพศหญิง อายุ 60-69 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษา ไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 20,001 บาท และอาศัยอยู่กับครอบครัว
2. การยอมรับและใช้เทคโนโลยี และทัศนคติการใช้งาน E- Wallet ในผู้สูงอายุ อยู่ในระดับความสำคัญมาก
3. บุคคลในครอบครัวแนะนำให้ใช้ ชำระค่าสินค้าและบริการโดยTrue Money นิยมซื้อประเภทสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะมีความสะดวกสบาย รวดเร็วทันใจ
4. ร้านค้าสะดวกซื้อมีส่วนร่วมผลักดันให้จำเป็นต้องใช้ ใช้จ่ายในช่วงเวลา 18:00-20:00 น.
   ที่บ้านพักอาศัย
5. ใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ มีความถี่เฉลี่ย 3 ครั้งต่อเดือน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 98 บาทต่อครั้ง
6. อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันมีพฤติกรรมการใช้งาน
   E-Wallet ในผู้สูงอายุที่แตกต่างกัน ด้านที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ
7. การยอมรับและใช้เทคโนโลยีด้านความคาดหวังจากการใช้งาน และด้านความคาดหวังในความพยายาม มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ และทัศนคติของผู้สูงอายุในด้านการรับรู้มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้งาน E-Wallet ในผู้สูงอายุ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05