แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านห้วยฉลองสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1

ผู้แต่ง

  • อณุธิดา กันจรรยา Students, Graduate School Faculty of Education Uttaradit Rajabhat University, Thailand
  • หยกแก้ว กมลวรเดช Lecturer, Graduate School Faculty of Education Uttaradit Rajabhat University, Thailand

คำสำคัญ:

การบริหาร, สถานศึกษา, ชุมชนเป็นฐาน

บทคัดย่อ

     บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและหาแนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านห้วยฉลอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ข้อ 1 ประกอบด้วย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 6 คน กำนัน 1 คน ผู้ใหญ่บ้าน 2 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 4 คน กรรมการหมู่บ้าน 10 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 10 คน ชาวบ้าน 20 คน รวม 58 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และประชากรกลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ข้อ 2 ได้แก่ ครูโรงเรียนบ้านห้วยฉลอง 5 คนคณะกรรมการสถานศึกษา 5 คน รวม 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามและการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

           ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาของการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากเรียงตามลำดับ ได้แก่ ด้านสร้างวัฒนธรรมในการแสวงหาความรู้ เรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาและชุมชน ด้านการใช้ฐานทรัพยากรของชุมชนบูรณาการในการบริหารจัดการศึกษา ด้านโครงสร้างการบริหารตามแนวราบที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจ แนวทางการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ได้แก่ 1) ผู้นำชุมชน องค์กรในชุมชนดำเนินการอำนวยความสะดวกในช่องทางการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว 2) กำหนดทักษะงานอาชีพลงในหลักสูตรสถานศึกษา ประสานวิทยากรในชุมชนให้ความรู้ กำหนดแหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามแผนงานโครงการ ผู้นำชุมชนประสานจัดหาแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน 3) กำหนดระเบียบ ข้อปฏิบัติที่ชัดเจนร่วมกัน ในรูปของคณะกรรมการ ฯ และแจ้งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจร่วมกันในเรื่องข้อปฏิบัติและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-04

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)