A Study of the Problems and Guidelines of the Internal Supervision of the High Schools under the Office of the Secondary Education Service Area 29
Main Article Content
Abstract
The research aimed 1) to study the states and problems of the internal supervision of the schools attached to the Office of the Secondary Education Service Area 29, 2) to compare the opinion concerning the states and problems of the internal supervision of the school in the study, and 3) to find the guidelines for the internal supervision. The samples used were 458 school administrators and teachers of the schools affiliated to the Office of the Secondary Education Service Area 29. The sample size was determined by Krejcie and Morgan’s table. Statistics used in the research were frequency, percentage, standard deviation, t-test and F-test.
The research findings were as follows.
- 1. The internal supervision of the schools under the Office of the Secondary Education Service Area 29 was found to be at a high level. The problems related to the internal supervision in the schools under study were overall at a low level.
- 2. The school administrators and teachers affiliated to the Office of the Secondary Education Service Area 29 as classified by positions, working experience, and school size had no different opinion on the internal supervision of the schools under study.
- 3. The guidelines for the internal supervision in the schools under study were as follows; the committee in charge should be formally appointed; The dates and time which were convenient to teachers concerned should be surveyed in order to determine the supervision planning; the problems should be appropriately prioritized according to the order of significance; The supervision dates should be clearly set.
In the process of the supervision, there should be representatives from school administrators, academic section and teachers in order that all concerned could be participate in the supervision. In addition, supervision should be regularly undertaken.
Article Details
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใด ๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียวโดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารราชธานีนวัตกรรมทางสังคมศาสตร์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัย บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิด จากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
References
ฑัณฑิมา พงษ์พรม. (2558). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการนิเทศภายในโรงเรียนของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2. ปริญญา
นิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธวัชพงษ์ รู้บุญ. (2552). สภาพและปัญหาการนิเทศการเรียนการสอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ธีระวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.
นันท์นภัส โซรัมย์. (2555). สภาพและปัญหาการนิเทศภายในโรงเรียนสังกัดพื้นที่ประถมการศึกษาสุรินทร์ เขต 2 . วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
พิบูลชัย ศรีเข้ม. (2553). การศึกษาสภาพและปัญหาการนิเทศภายในโรงเรียนสังกัดเทศบาล เขตการศึกษา 10. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ไพรัช ชารีแก้ว. (2552). ทัศนะของข้าราชการครูที่มีต่อสภาพปัญหาการนิเทศภายในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
วิสูตร ม่วงหวาน. (2551). การศึกษาสภาพและปัญหาการนิเทศภายในการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
สภาพร เถรวงแก้ว. (2550). สภาพและปัญหาการนิเทศภายในโรงเรียนของกลุ่มโรงเรียน เครือข่ายนาหว้าท่าคูณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนครพนม.