https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/issue/feed วารสารบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2024-08-31T00:00:00+07:00 ดร.กนกกานต์ เทวาพิทักษ์ คุคค์ jmsubu@gmail.com Open Journal Systems <p>ISSN 2286-6809 (Print)<br />ISSN 2651-1819 (Online)</p> <p>วารสารบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นวารสารที่ตีพิมพ์บทความภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ <strong>โดยเปิดรับบทความวิจัย (Research paper) บทความวิชาการ (Review article)</strong> โดยมีวัตถุประสงค์การตีพิมพ์ ดังนี้<br /> 1. เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัยของอาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา และผู้สนใจ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย <br /> 2. เพื่อส่งเสริม เผยแพร่การศึกษา ค้นคว้าวิจัยที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อการพัฒนาองค์ความรู้วิชาการ ในสาขาวิชาต่างๆ</p> <h3> </h3> <h3>Focus and Scope</h3> <p>โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องครอบคลุมศาสตร์ทางด้านการบริหารและการจัดการ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ การบัญชี การเงินและการธนาคาร การตลาด การจัดการและการจัดการเชิงกลยุทธ์ พฤติกรรมองค์กรและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจระหว่างประเทศ เศรษฐศาสตร์ การจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว รวมทั้งหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อดังกล่าว</p> <h3> </h3> <h3>Peer Review Process</h3> <p>** บทความที่จะลงตีพิมพ์ในวารสารบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทุกเรื่องต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง<strong> บทความละ 3 ท่าน ในรูปแบบ Double-Blind </strong> และจะต้องเป็นบทความที่ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ เผยแพร่ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่นๆ การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง </p> <p>**ผู้สนใจสามารถส่งบทความตีพิมพ์ผ่านระบบ Submission Online <strong>โดยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ในทุกขั้นตอน</strong></p> <p> </p> <h3>Publication Frequency</h3> <p>วารสารบริหารศาสตร์มีกำหนดการตีพิมพ์ปีละ 3 ครั้ง (เริ่มตั้งแต่ฉบับปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2567 เป็นต้นไป)</p> <p>- ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม-เมษายน</p> <p>- ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม</p> <p>- ฉบับที่ 3 เดือนกันยายน-ธันวาคม </p> <p> </p> <p>- <a href="https://docs.google.com/document/d/1xjS_1WZP_CIwoQObd2cIM78Mp8Wkkd_k/edit?usp=sharing&amp;ouid=112051766367499053711&amp;rtpof=true&amp;sd=true">Template การเขียนบทความวิจัย</a></p> <p>- <a href="https://drive.google.com/file/d/1hmMGhx_65mSKVNnFzNWv4MR5WEkF1FFz/view?usp=sharing">แบบเสนอต้นฉบับ (ไทย)</a></p> <p>- <a title="Manuscript submission form" href="https://docs.google.com/document/d/1gNWwCSfK5WW37J2YKgfS7997ID281_s7/edit?usp=sharing&amp;ouid=112051766367499053711&amp;rtpof=true&amp;sd=true">Manuscript submission form</a></p> <p>- <a href="https://drive.google.com/file/d/1duNRQj5-QKDER3BEHImKznax6j13gi9A/view?usp=sharing">คำแนะนำและการจัดเตรียมต้นฉบับและการอ้างอิง (อ้างอิงแบบ APA Style)</a></p> <p>- <a href="https://drive.google.com/file/d/12999q0Q3hbeMAAyW_BJpspWtVTzM93XV/view?usp=sharing">คู่มือการใช้งานงานระบบ ThaiJO (สำหรับผู้แต่ง)</a></p> <p><strong>*** ผู้ส่งบทความกรุณาจั</strong><strong>ดทำแบบเสนอต้นฉบับ และจัดทำบทความตามรูปแบบที่กำหนด</strong></p> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/271979 ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของการให้คุณค่าในการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีอิทธิพลต่อความยั่งยืนในการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ 2023-10-13T06:59:23+07:00 เดชวิทย์ นิลวรรณ* dejawit.cmru@gmail.com บังอร ฉัตรรุ่งเรือง bung_onc@yahoo.com อาชวิน ใจแก้ว ardchawinjk@gmail.com ศุภชัย มุกดาสนิท supachai_muk@cmru.ac.th <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยของการให้คุณค่าในการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีอิทธิพลต่อความยั่งยืนในการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้การสุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเทคนิคการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยของการให้คุณค่าในการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีอิทธิพลต่อความยั่งยืนในการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแปรที่มีอิทธิพลเชิงบวก ได้แก่ ปัจจัยด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัจจัยด้านมานุษยวิทยา ปัจจัยด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ ปัจจัยด้านคุณค่าทางสังคม และปัจจัยด้านการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น โดยปัจจัยด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจมีอิทธิพลมากที่สุดต่อความยั่งยืนในการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามยังพบว่ามีตัวแปรที่มีอิทธิพลเชิงลบ ได้แก่ ปัจจัยด้านนิเวศนิยมและปัจจัยด้านนักท่องเที่ยว แสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนในการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ต้องพึงพาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับประสบการณ์การเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบคนท้องถิ่น และคุณค่าทางสังคมของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ยั่งยืน</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/274672 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มตลาด เอ็ม เอ ไอ 2024-01-13T17:23:19+07:00 สุรีพร เชียงเหนือ* sureeporn.ch@rmuti.ac.th สมใจ บุญหมื่นไวย somjai.bo@rmuti.ac.th นวลปรางค์ แจบไธสง nualprang.ja@rmuti.ac.th <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI โดยตัวแปรที่สนใจศึกษาได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และค่าธรรมเนียมการสอบบัญชี กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในช่วงระยะเวลาปี พ.ศ. 2564-2565 ยกเว้นบริษัทในกลุ่มธุรกิจบริการ บริษัทในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม บริษัทที่อยู่ในช่วงดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน บริษัทที่กําลังฟื้นฟูการดําเนินงาน บริษัทที่มีการเปลี่ยนสภาพ และบริษัทที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน 90 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์สถิติเชิงอนุมานด้วยการถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p> ผลการศึกษาพบว่าอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นมีผลกระทบต่อการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีในทิศทางตรงข้ามและมีผลกระทบต่อการหมุนเวียนสำนักงานสอบบัญชีในทิศทางเดียวกัน และอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวมมีผลกระทบต่อการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี รวมถึงนักลงทุน ทำให้เห็นถึงสาเหตุที่บริษัทตัดสินใจเลือกหมุนเวียนผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี โดยผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และพิจารณาเลือกรับงานการตรวจสอบในกลุ่มบริษัทตัวอย่างร่วมด้วยเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจจากการให้บริการลูกค้ามากที่สุด อีกทั้งยังช่วยให้กลุ่มผู้ลงทุนสามารถนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจและพิจารณาสำหรับเลือกลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องได้</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/274931 ปัจจัยที่มีอิทธิผลต่อการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส 2024-04-05T01:14:03+07:00 เกศินี สุขสอาด kesinee7suksaard@gmail.com ธนพร สวรรค์พิทักษ์* tanapond.swa@stou.ac.th <p> ความต้องการใช้บริการชำระเงินผ่านทางแอพพลิเคชั่นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา-19 จึงมีความสำคัญในการพัฒนาการให้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยการยอมรับและใช้เทคโนโลยีในการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส (2) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส และ(3) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส ในจังหวัดนนทบุรี</p> <p> การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรีและเคยใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส ผู้วิจัยได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 ราย ตามวิธีการคำนวณของเครซี่และมอร์แกน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p> ผลการศึกษาพบว่า (1) ปัจจัยการยอมรับและใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส โดยรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่ง 3 ลำดับแรกคือ ด้านสภาพสิ่งอำนวยความสะดวก รองลงมาคือ ด้านความคาดหวังในความพยายาม และด้านความคาดหวังในประสิทธิภาพ (2) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยลำดับแรกคือ ด้านความมั่นใจในการใช้บริการชำระเงิน และ (3) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเค พลัส ในจังหวัดนนทบุรี คือ ด้านความคาดหวังในประสิทธิภาพ ความคาดหวังในความพยายาม และอิทธิพลทางสังคม โดยด้านความคาดหวังในประสิทธิภาพเป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุด</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/272924 อิทธิพลของชื่อเสียง คุณภาพ การสนับสนุนทางการตลาด และความไว้วางใจที่มีผลต่อความจงรักภักดีของลูกค้าในการใช้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ 2023-11-24T15:36:39+07:00 ภูษิต วงศ์หล่อสายชล dr.phusit@gmail.com <p> การช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-Marketplace เป็นหนึ่งช่องทางที่นิยมซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ โดยเฉพาะ Shopee และ Lazada เป็นแพลตฟอร์ม E-Marketplace ที่ได้ช่องทางที่ได้รับความนิยม โดยกลุ่ม Gen Z และกลุ่ม Gen Y ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด หากกล่าวถึงความสำเร็จในธุรกิจนี้ หนึ่งในหัวใจสำคัญคือความความภักดีของลูกค้า แต่ลูกค้ายังเกิดความความกังวลใจในการใช้ E-Marketplace โดยเฉพาะด้านความไว้วางใจ ชื่อเสียง ตลอดจนคุณภาพและสิ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อส่วนหนึ่งมาจากการส่งเสริมการขาย</p> <p> งานวิจัยฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์คือเพื่อศึกษาอิทธิพลของชื่อเสียง คุณภาพ และการสนับสนุนทางการตลาดที่มีต่อความไว้วางใจในการใช้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์และเพื่อศึกษาอิทธิพลความไว้วางใจในการใช้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีต่อความจงรักภักดีของลูกค้า โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ ตัวอย่างวิจัย คือ ผู้ซื้อสินค้าใน E-Marketplace ของ Shopee กับ Lazada และอยู่ในกลุ่ม Gen Z และ Gen Y จำนวน 660 ราย โดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามอิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณาและสถิติทดสอบโมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปลิสเรล (LISREL)</p> <p> ผลสรุปของการวิจัยพบว่า ผลการตรวจสอบความตรงของโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของชื่อเสียง คุณภาพ การสนับสนุนทางการตลาด และความไว้วางใจ กับความจงรักภักดีของลูกค้านั้น โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ดี นอกจากนั้นพบว่าตัวแปรทำนายหรือปัจจัยเชิงสาเหตุ ชื่อเสียง คุณภาพ การสนับสนุนทางการตลาด สามารถอธิบายความแปรปรวนของตัวแปรความไว้วางใจ ได้ถึงร้อยละ 93 โดยตัวแปรชื่อเสียงไม่มีอิทธิพลรวมในทิศทางบวกต่อ ตัวแปรความไว้วางใจ ในขณะที่ตัวแปรคุณภาพและการสนับสนุนทางการตลาด มีอิทธิพลรวมในทิศทางบวกต่อตัวแปรความไว้วางใจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และตัวแปรทำนายหรือปัจจัยเชิงสาเหตุความไว้วางใจได้สามารถอธิบายความแปรปรวนของตัวแปรความจงรักภักดีของลูกค้าถึงร้อยละ 87 </p> <p> ผลการวิจัยนี้มีความสำคัญต่อแพลตฟอร์ม E-Marketplace ที่ต้องการส่งเสริมความจงรักภักดีของลูกค้า โดยมุ่งเน้นอย่างมีกลยุทธ์เกี่ยวกับคุณภาพ การสนับสนุนทางการตลาด และการสร้างความไว้วางใจเพื่อเพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/275046 ผลกระทบของนวัตกรรมทางการเงินที่มีต่อผลการดำเนินงานของสถาบันการเงิน ในประเทศไทย 2024-02-24T15:12:53+07:00 ประภัสสร วารีศรี* prapassorn.w@acc.msu.ac.th คมกริช วงศ์แข komkrit.w@acc.msu.ac.th <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารสถาบันการเงินเกี่ยวกับผลกระทบของนวัตกรรมทางการเงินที่มีต่อผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินในประเทศไทย โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างคือผู้จัดการสาขาของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจำนวน 69 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่การวิเคราะห์ความถดถอยแบบพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเงิน 5 ด้านของผู้บริหารสถาบันการเงินในภาพรวมจัดอยู่ในเกณฑ์มาก โดยมีความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านสารสนเทศสูงที่สุด ผลการศึกษาผลกระทบของนวัตกรรมทางการเงินที่มีต่อผลการดําเนินงานของสถาบันการเงินในประเทศไทยพบว่า มีเพียงปัจจัยนวัตกรรมทางการเงินด้านภาวะผู้นำที่มีความสัมพันธ์และมีผลกระทบเชิงบวกกับผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินในประเทศไทย ดังนั้นหากผู้บริหารสถาบันการเงินให้ความสําคัญกับภาวะผู้นํา มีการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ดี มีการสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงิน สื่อสารวิสัยทัศน์ที่มุ่งนวัตกรรมการเงินไปยังทุกภาคส่วนในองค์กรจะส่งผลต่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของสถาบันการเงินในประเทศไทย</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/275029 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อสินค้าด้วยผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี 2024-04-07T14:46:28+07:00 ศิญารัตน์ ดำรงค์วชิรพงศ์ d.siyarat@gmail.com สมบัติ ธำรงสินถาวรT sombatt@go.buu.ac.th ชานน ชลวัฒนะ chanon@go.buu.ac.th ปิยพรหม สมบูรณ์สุนิธิ* piyapromh@gmail.com <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาอิทธิพลและระดับของปัจจัยอันประกอบด้วย ระดับการรับรู้ความเสี่ยง ความไว้วางใจ และปัจจัยทางการตลาด ที่ส่งผลต่อระดับความตั้งใจซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งผลการวิจัยที่ได้จะถูกนำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงการให้บริการส่วนประสม ทางการตลาดและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้ดำเนินธุรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ให้สอดคล้องกับความตั้งใจซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ มีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่เคยใช้บริการซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกตามสัดส่วนประชากรตามอำเภอในจังหวัดชลบุรี จำนวน 400 คน</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้บริการซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี มีระดับความคิดเห็นเรื่องการรับรู้ความเสี่ยงในด้านการเงิน ความเสี่ยงที่เกิดจากการขนส่ง ความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมาย ความไว้วางใจด้านความเชี่ยวชาญ ความไว้วางใจด้านความซื่อสัตย์ ด้านการประหยัดต้นทุน ด้านการประหยัดเวลา ด้านความสะดวกสบาย ด้านความหลากหลาย ด้านคุณภาพของข้อมูลสินค้า และความตั้งใจซื้อ อยู่ในระดับมากที่สุด และการรับรู้ความเสี่ยงด้านสินค้าอยู่ในระดับมาก </p> <p> ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ตัวแปรการรับรู้ความเสี่ยงในด้านการรับรู้ความเสี่ยงด้านสินค้า การรับรู้ความเสี่ยงที่เกิดจากการขนส่ง การรับรู้ความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมาย ตัวแปรความไว้วางใจในด้านความซื่อสัตย์ และตัวแปรปัจจัยทางการตลาดในด้านการประหยัดต้นทุน ความสะดวกสบาย และความหลากหลายของสินค้า มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี ขณะที่การรับรู้ความเสี่ยงด้านการเงิน ความไว้วางใจด้านความเชี่ยวชาญ การประหยัดเวลา และคุณภาพของข้อมูลสินค้า ไม่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อสินค้าผ่านระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดชลบุรี</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jms_ubu/article/view/275820 การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการลดความล่าช้าในการบันทึกรายละเอียดครุภัณฑ์ด้วยระบบสารสนเทศจัดการงบลงทุน 2024-05-16T16:01:20+07:00 สุคนธ์ บุญจันทร์* ksukho@kku.ac.th ฉัตรปรินท์ ปานสุขรดา chatppa@kku.ac.th <p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ พัฒนาระบบสารสนเทศการจัดการงบลงทุน-ครุภัณฑ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเพื่อลดความล่าช้าในการบันทึกรายละเอียดครุภัณฑ์ ในการพัฒนาระบบสารสนเทศใช้เครื่องมือ ดังนี้ JetBrains PhpStorm, Visual Studio Code, Laravel Framework, Navicat for MySQL, MySQL, Docker และบริหารจัดการโครงการระบบสารสนเทศด้วยไมโครซอฟท์ ทีมส์ และไมโครซอฟท์ พลานเนอร์ ประชากร ได้แก่ บุคลากรทั้งประเภทวิชาการ/ประเภทสนับสนุนที่รับผิดชอบบันทึกรายละเอียดครุภัณฑ์ นักวิชาการแผนและสารสนเทศ หัวหน้าสาขาวิชาและผู้บริหาร จำนวน 35 คน โดยคัดเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ และวิเคราะห์เนื้อหา ผลจากการวิจัยพบว่า ได้ระบบสารสนเทศการจัดการงบลงทุน-ครุภัณฑ์ แบบอัตโนมัติตามแบบฟอร์มบันทึกรายละเอียดครุภัณฑ์ ด้วยระบบออนไลน์บนเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจัดการข้อมูลด้วยการล็อกอินเข้าใช้งาน โดยโปรแกรมสามารถรายงานแบบฟอร์มรายละเอียดงบประมาณครุภัณฑ์และจัดเก็บข้อมูลได้อัตโนมัติ ก่อนนำระบบสารสนเทศไปใช้มีการประเมินระบบจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 2 คน เก็บข้อมูลและบันทึกเวลาการปฏิบัติงานแต่ละกิจกรรมโดยการจับเวลา วิเคราะห์ความสูญเปล่าจากการปฏิบัติงานด้วยแผนผังสายธารคุณค่า (VSM) ร่วมกับแผนภูมิกระบวนการไหลของงาน และวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยหลักการ ECRS ในการวิเคราะห์ปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน พบว่า ลดขั้นตอนและลดความล่าช้าในการบันทึกรายละเอียดครุภัณฑ์ <br />จาก 7 กิจกรรม เหลือ 3 กิจกรรม และลดระยะเวลาในการปฏิบัติงานจาก 920 นาที เหลือ 55 นาที คิดเป็นร้อยละ 94</p> 2024-08-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024