https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jliwu/issue/feed
วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
2021-08-31T10:18:57+07:00
Asst.Prof.Dr.Poonsit Hiransai
poonsit.hi@mail.wu.ac.th
Open Journal Systems
<p><strong>วัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสาร</strong></p> <p>วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นวารสารวิชาการราย 6 เดือน จัดพิมพ์เผยแพร่โดย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำเพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานวิจัยและบทความวิชาการสู่สังคมด้านพัฒนาการเรียนการสอน ของคณาจารย์ นักวิชาการ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งภายในและภายนอกสถาบัน อันมีขอบเขตเนื้อหาเกี่ยวกับ</p> <p>1. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน</p> <p>2. งานวิจัยในชั้นเรียน</p> <p>3. การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)</p> <p>4. การพัฒนาศักยภาพของผู้สอน</p> <p>5. การพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน</p> <p>6. การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน</p> <p>7. การพัฒนาเทคนิคการสอน</p> <p>8. การสร้างหรือพัฒนาอุปกรณ์สื่อการสอนทั่วไป</p> <p>9. การสร้างหรือพัฒนาอุปกรณ์สื่อการสอนอิเล็กทรอนิกส์ e-Learning หรือ นวัตกรรม</p> <p>10. การปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยสนับสนุนทางการเรียนรู้</p> <p>11. การปรับปรุงพัฒนากระบวนการหรือวิธีการวัดและประเมินผล</p> <p>12. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือทัศนคติของผู้เรียน</p> <p><strong>นโยบายการจัดพิมพ์และเผยแพร่</strong></p> <p> วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้สร้างพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยน เผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัยระหว่างนักวิชาการในด้านสหวิทยาการสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเป็นผู้อ่านทบทวน <strong>(Peer Review) ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป</strong> ทั้งนี้กองบรรณาธิการใช้ระบบที่ผู้ประเมินและผู้เขียนบทความต่างไม่ทราบชื่อของแต่ละฝ่<strong>าย (double-blind review) </strong>บทความที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร และเผยแพร่บนระบบการจัดการวารสารไทยในระบบออนไลน์ (Thai Journals Online System (ThaiJO) <strong>ปีละ 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม เริ่มฉบับแรก เดือนมกราคม - มิถุนายน 2558</strong> ประเภทของบทความหรือบทความที่จะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารโดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้</p> <p><strong>1. บทความทางวิชาการ</strong>โดยทั่วไปเป็นบทความทางวิชาการที่นำเสนอเนื้อหาสาระทางวิชาการที่ผ่านการวิเคราะห์และประมวลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ประกอบด้วย ความนำ เนื้อเรื่อง ซึ่งแบ่งเป็นประเด็นหลักประเด็นรอง ประเด็นย่อย และบทสรุปความยาวไม่เกิน 20 หน้า</p> <p><strong>2. บทความวิจัย</strong>เป็นบทความที่เกิดจากการวิจัยของผู้เขียนหรือสมาชิกร่วมในงานวิจัยนั้น ประกอบด้วย ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ สมมุติฐานของงานวิจัย ขอบเขตที่ครอบคลุมในการวิจัยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการวิจัย (ประกอบด้วยข้อมูลประชากรกลุ่มตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่าง เครื่องมือการวิจัย และเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล) ผลการวิจัย (สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ) ความยาวไม่เกิน 25 หน้า</p> <p><strong>3. บทปริทัศน์</strong>หมายถึง บทความวิชาการที่เขียนขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรมวิชาการที่เกี่ยวข้องมีการวิพากษ์และแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการ ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง บทคัดย่อหรือเรื่องย่อ คำนำ เนื้อเรื่อง และเอกสารอ้างอิงความยาวไม่เกิน 15 หน้า</p> <p><strong>4. บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)</strong>หมายถึง งานเขียนขนาดสั้นที่ทำการสรุปข้อโต้แย้งหลัก ๆ (Debates) ของหนังสือ 1 เล่ม (หรือหลายเล่มประกอบกัน) รวมถึงอาจจะมีการเสนอแนะว่าหนังสือเล่มนั้น ๆ มีจุดเด่น/จุดด้อยอย่างไรทั้งในเชิงทฤษฎี/ข้อมูล/ข้อค้นพบ และกลุ่มผู้อ่านที่น่าจะได้ประโยชน์จากหนังสือนั้น ความยาวไม่เกิน 5 หน้า</p> <h3>"วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ไม่จัดเก็บค่าธรรมเนียมดำเนินการ "</h3>
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jliwu/article/view/243233
แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการสอนภูมิศาสตร์ สำหรับครูสังคมศึกษา
2021-08-31T10:18:57+07:00
วัลลภา อินทรงค์
wanlapa.i@pkru.ac.th
<p>การพัฒนาสมรรถนะการสอนสาระภูมิศาสตร์ สำหรับครูสังคมศึกษา เป็นการพัฒนาผู้สอนให้มีความรู้ ทักษะและความสามารถในการสอนสาระภูมิศาสตร์ที่สอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นการสอนให้ผู้เรียนเข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถีการดำเนินชีวิต รู้เท่าทัน ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสามารถใช้ทักษะ กระบวนการ ความสามารถทางภูมิศาสตร์ และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ ผู้สอนสาระภูมิศาสตร์ ควรคำนึงถึงการพัฒนาสมรรถนะทางการสอนในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1.สมรรถนะด้านความรู้ ประกอบด้วย การรู้เรื่องภูมิศาสตร์ ความรู้ด้านทักษะทางภูมิศาสตร์ ความรู้เกี่ยวกับความสามารถทางภูมิศาสตร์ และความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ 2. สมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการตั้งคำถามเชิงภูมิศาสตร์ ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนการจัดการข้อมูล ขั้นตอนการวิเคราะห์และแปลผลข้อมูล และขั้นตอนการสรุปเพื่อตอบคำถาม และ 3. สมรรถนะด้านการวัดและประเมินผล ประกอบด้วย แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลสาระภูมิศาสตร์ตามสภาพจริง วิธีการวัดและประเมินผลสาระภูมิศาสตร์ตามสภาพจริง และการกำหนดงานหรือสถานการณ์ที่ใช้ในการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการสอนภูมิศาสตร์ สำหรับครูสังคมศึกษาที่นำเสนอข้างต้น หากผู้สอนตระหนัก เห็นความสำคัญ และนำแนวทางเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ โดยการฝึกฝนจนเกิดเป็นทักษะในการถ่ายทอดความรู้ได้อย่างครอบคลุมทุกประเด็นจะส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น</p>
2021-08-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์