การที่- และ ความที่- ในฐานะตัวบ่งชี้นามวลีแปลงเชิงอนุประโยคในภาษาไทย
Keywords:
การที่-, ความที่-, การแปลงเป็นนามวลี, ตัวบ่งชี้นามวลีแปลงเชิงอนุประโยค, การซ้อนความ, kaanthii-, khwaamthii-, nominalization, clausal nominalizer, subordinationAbstract
ผลงานในอดีตที่ผ่านมายังมีความเห็นไม่ตรงกันในการวิเคราะห์หน่วยสร้าง การที่ และ ความที่ โดยผลการวิเคราะห์แตกต่างกันถึง 5 ชนิดหน่วยสร้าง บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบหน่วยสร้าง การที่ และ ความที่ ในประเด็นที่มีความเห็นไม่ตรงกัน 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การที่ และ ความที่ จัดเป็นหน่วยที่แยกกัน เป็น [การ/ความ][ที่-] โดย การ/ความ เป็นคำนามหลักที่มีอนุประโยคขยายนาม ที่ มาขยาย หรือจัดเป็นหน่วยเดียวกัน เป็น [การที่-] และ [ความที่-] และประเด็นที่สอง คือ หน้าที่ทางไวยากรณ์และชนิดของหน่วยสร้างอนุประโยคที่ขึ้นต้นด้วย การที่- และ ความที่- ผลการทดสอบในประเด็นแรกพบว่า หน่วยสร้าง การที่ และ ความที่ ควรจัดเป็น หน่วยเดียวกัน นั่นคือ ไม่ใช่คำนามหลัก การ/ความ ที่ขยายด้วยอนุประโยคขยายนาม ที่ เพราะไม่มีคุณสมบัติของการซ้อนความซึ่งต้องสามารถแยกออกเป็นอนุประโยคหลักและอนุประโยคซ้อนที่มีความหมายสมบูรณ์และถูกไวยากรณ์ได้ ส่วนผลการทดสอบในประเด็นที่สองพบว่า การที่ และ ความที่ ใช้นำหน้าอนุประโยคเพื่อทำให้เป็นหน่วยสร้างที่ ทำหน้าที่อย่างนามวลี และการเลือกใช้ การที่ หรือ ความที่ สัมพันธ์สอดคล้องเป็นคู่กับการใช้ตัวบ่งชี้นามวลีแปลง การ และ ความ ที่เติมหน้ากริยาวลีเพื่อทำให้เป็นนามวลี โดยการเลือกใช้ การที่/การ หรือ ความที่/ความ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางความหมายของกริยาหลักของหน่วยฐาน และแต่ละคู่มีการปรากฏในปริภาวะไม่ซ้ำกัน กล่าวคือ การ และ ความ ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้นามวลีแปลงเชิงศัพท์ ในการแปลงกริยาฐานศัพท์ให้เป็นนามวลี ส่วน การที่ และ ความที่ ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้นามวลีแปลงเชิงอนุประโยคใน การแปลงหน่วยฐานในระดับอนุประโยคให้เป็นนามวลี
Kaanthii- and khwaamthii- as Clausal Nominalizers in Thai
In previous studies, there have been disagreements over the analyses on kaanthii- and khwaamthii- constructions which are analyzed as 5 different types of constructions. This article aims to examine these two constructions on two unsettled major issues. The first is whether kaan/khwaam and thii are two separated units as [kaan/khwaam][thii-], i.e., the head nouns kaan/khwaam modified by the thii- noun-modifying clause, or are counted as a single grammatical morpheme as [kaanthii-] and [khwaamthii-]. The other issue is what grammatical functions of kaanthii- and khwaamthii- truly are, in other words, what kinds of constructions the clauses preceded with kaanthii- and khwaamthii- are. The examinations demonstrate that kaan/khwaam and thii must be counted as a single grammatical morpheme, [kaanthii-] and [khwaamthii-], not as two syntactically separated units as the head nouns kaan/khwaam and a thii- noun-modifying clause due to their lacks of a subordination property of noun-modifying clause constructions which must be extracted into two semantically and grammatically well-formed main and subordinate clauses. Besides, it is shown that the usage of kaanthii- and khwaamthii- dyadically correspond to the usage of kaan- and khwaam-, of which functions are prefixes to a base verb to form a noun (kaanthii- corresponds to kaan-, and hwaamthii- to khwaam-). The usage of kaanthii-/khwaamthii-, and kaan-/khwaam- each interracts with semantic properties of the base verb (for kaan- and khwaam-), and of the principal verb of the main clause which to be nominalized; accordingly, kaanthii- and khwaamthii- are considered to be grammatical markers of the same morphosyntactic process as of kaan- and khwaam, i.e., “nominalization”. As grammatical markers in the nominalization process, kaanthii-/khwaamthii- and kaan-/khwaam- function in a mutually exclusive environment: kaanthii- and khwaamthii- are clausal nominalizers, nominalizing a base in the clause level (clausal base), whereas kaan- and khwaam- are lexical nominalizers, operating on a lexical base.
References
เสาวรัตน์ ดาราวงษ์. (2517). คำผสานและที่มาของหน่วยผสานในภาษาไทย. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต แผนกวิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสาวรัตน์ ดาราวงษ์. (2520). คำผสานและที่มาของคำผสานในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมการฝึกหัดครู.
กาญจนา นาคสกุล. (2550). "คำซ้ำ คำซ้อน คำประสม คำประสาน คำสมาส คำไวพจน์." สกุลไทย 53 (2750).
กาญจนา นาคสกุล และวิรุฬห์รัตน์ ไฉนงุ้น. (2555). “คำประสม-คำประสาน.” ใน บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม ๒: คำ การสร้างคำ และการยืมคำ, วัลยา ช้างขวัญยืน และคณะ (บก.), 32-56. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาไทย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
นววรรณ พันธุเมธา. (2527). ไวยากรณ์ไทย (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: รวมสาส์น-
การพิมพ์.
ปราณี กุลละวณิชย์. (2549). “อนุประโยคขยายนาม: คุณานุประโยคและอนุประโยคเติมเต็มนาม.” ใน หน่วยสร้างที่มีข้อขัดแย้งในไวยากรณ์ไทย: หน่วยสร้างคุณานุ-ประโยค หน่วยสร้างอนุประโยคเติมเต็ม หน่วยสร้างกริยาเรียง และหน่วยสร้างกรรมวาจก, อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์ (บก.), 7-65. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิจินตน์ ภาณุพงศ์. (2520). โครงสร้างของภาษาไทย: ระบบไวยากรณ์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วิจินตน์ ภาณุพงศ์ และอนันต์ เหล่าเลิศวรกุล. (2555). “ชนิดของคำ”. ใน บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม ๓: ชนิดของคำ วลี ประโยค และสัมพันธสาร, วิจินตน์ ภาณุพงศ์ และคณะ (บก.), 16-65. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาไทย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา. (2529). “การ และ ความ ในภาษาไทย.” วารสารราชบัณฑิตยสถาน 12 (1): 87-92.
สุนันท์ อัญชลีนุกูล. 2546. ระบบคำในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรีเนตร จรัสจรุงเกียรติ. (2555). พัฒนาการของคำว่า “เป็น” ในภาษาไทย. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2537). กำเนิดและพัฒนาการของการแปลงให้เป็นนามวลีในภาษาไทย: หลักฐานแสดงการปรับเปลี่ยนให้เป็นสมัยใหม่ของภาษาไทย. รายงานการวิจัย เสนอ สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2553). ชนิดของคำในภาษาไทย: การวิเคราะห์ทางวากยสัมพันธ์. กรุงเทพฯ: เอเอ๊สพี.
อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์. (2547). ไวยากรณ์ไทยในภาษาศาสตร์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
อุปกิตศิลปสาร, พระยา. (2548). หลักภาษาไทย: อักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์
ฉัทลักษณ์ (พิมพ์ครั้งที่ 13). กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
Bisang, W. (1998). “Adverbiality: the View from the Far East.” In Adverbial Constructions in the Languages of Europe, edited by Jahan van der Auwera, 641-812. Berlin: Mouton de Gruyter.
Campbell, S. & Shaweevongs, C. (1970). The Fundamentals of the Thai Language. 5 ed. Bangkok: Thongchai Press.
Chiravate, B. (2012). “Aspectual Properties and Polarity-Sensitivity of Copulas pen1 and khʉʉ1 in Thai.” MANUSYA: Journal of Humanities 15 (1):1-18.
Chomsky, N. (1970). “Remarks on Nominalization.” In Readings in English Transformational Grammar, edited by Roderick Jacobs and Peter Rosenbaum, 184-221. Waltham, MA: Ginn.
Comrie, B. (1998). “Rethinking the Typology of Relative Clauses.” Language Design 1:59-86.
Comrie, B. & Kuteva, T. (2005). “Relativization Stategies.” In The World Atlas of Language Structure, edited by Martin Haspelmath, Matthews S. Dryer, David Gil and Bernard Comrie, 494-501. Oxford: Oxford University Press.
Comrie, B. & Thompson, S. A. (2007). “Lexical Nominalization.” In Language Typology and Syntactic Description, Vol.3: Grammatical Categories and the Lexicon, edited by Timothy Shopen, 334-381. New York, NY: Cambridge University Press.
Dik, S. C. (1985). “Formal and Semantic Adjustment of Derived Constructions.” In Predicates and Terms in Functional Grammar, edited by Machtelt A. Bolkenstein, Casper de Groot and J. Lacklan Mackenzie, 1-28. Dordrecht: Foris.
Diller, A. (2001). “Grammaticalization and Tai Syntactic Change.” In Essays in Tai Linguistics, edited by M.R. Kalaya Tingsabadh and Arthur S. Abramson. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Diller, T. & Juntanamalaga, P. (1993). Beginning Thai. Canberra: Southeast Asia Centre, Faculty of Asian Studies, the Australian National University, in corporation with the National Asian Languages Project and the National Thai Studies Centre.
Ekniyom, P. (1982). A Study of Informational Structuring in Thai. Doctoral Dissertation in Linguistics, University of Hawaii.
Givón, T. (2001). Syntax: An Introduction, Volume 2. Philadelphia, PA: John Benjamins B.V. Grosu, A. & Thompson, S. A. (1977). “Constraints on the Distribution of NP Clauses.” Language 53 (1):104-151.
Hedberg, N. & Potter, D. (2010). “Equative and Predicational Copulas in Thai.” Proceedings of the 36th Annual Meeting of the Berkeley Linguistics Society, Berkeley, February 12-13, 2010.
Higbie, J. & Thinsan, S. (2002). Thai Reference Grammar: The Structure of Spoken Thai. Bangkok: Orchid Press.
Hopper, P. J. & Traugott, E. C. (2003). Grammaticalization. 2nd ed. Cambridge, MA: Cambridge University Press.
Horie, K. (2001). “Complement Clauses.” In Language Typology and Language Universals: An International Handbook Vol.2, edited by Martin Haspelmath, Ekkehard König and Wolfgang Raible, 979-993. Berlin: Walter de Gruyter.
Iwasaki, S. & Ingkaphirom, P. H. (2005). A Reference Grammar of Thai. Cambridge: Cambridge University Press.
Koptjevskaja-Tamm, M. (1993). Nominalizations. New York, NY: Routledge.
Koptjevskaja-Tamm, M. (2005). “Action Nominal Constructions.” In The World Atlas of Language Structures, edited by Martin Haspelmath, Matthews S. Dryer, David Gil and Bernard Comrie, 254-257. Oxford: Oxford University Press.
Koptjevskaja-Tamm, M. (2006). “Nominalization.” In Encyclopedia of Language and Linguistics, edited by Keith Brown, 652-659. London: Elsavier.
Kuno, S. & Wongkhomthong, P. (1981). “Characterizational and Identificational Sentences in Thai.” Studies in Language 5:65-109.
Langacker, R. W. (1991). Foundations of Cognitive Grammar, Vol.2: Descriptive Application. Stanford, CA: Stanford University Press.
Mackenzie, J. L. (1995). “English Nominalizations in the Layered Model of the Sentence.” In Complex Structures: A Functionalist Perspective, edited by Betty Devriendt, Louis Goossens and Johan Van der Auwera, 325-355. Berlin: Mouton de Gruyter.
Matthews, P. H. 2014. The Concise Oxford Dictionary of Linguistics. 3 ed. Oxford: Oxford University Press.
Mattsumoto, Y. (1988). “Semantics and Pragmatics of Noun-modifying Constructions in Japanese.” Berkeley Linguistic Society 14:166-175.
Morev, L. N. (2005). “Cognitive and Structural Aspects of Abstract Nominalization in Tai and some other Isolating Languages of Southeast Asia.” Mon-Khmer Studies (36):139-148.
Noonan, M. (2006). “Complement Clauses.” In Encyclopedia of Language and Linguistics (2nd edition), edited by Keith Brown, 694-697. London: Elsevier.
Noonan, M. (2007). “Complementation.” In Language Typology and Syntactic Description, Vol 2: Complex Constructions, edited by Timothy Shopen, 52-150. Cambridge: Cambridge University Press.
Noss, R. B. (1964). Thai Reference Grammar. Washington, D.C.: U.S. Government Printing Office.
Panther, K.-U. & Köpcke, K.-M. (2008). “A Prototype Approach to Sentences and Sentence Types.” Annual Review of Cognitive Linguistics 6:83-112.
Prasithrathsint, A. (1994). “Borrowing and Nominalization of Technical Terms in Standard Thai.” In Language Reform: History and Future (Vol.VI), edited by István Fodor and Claude Hagège, 9-24. Hamburg: Helmut Buske Verlag.
Prasithrathsint, A. (1995). “The Emergence and Development of Abstract Nominalization in Standard Thai.” the 26th Conference on New Ways of Analyzing Variation, the University of Pennsylvania, Philadelphia, October, 1995.
Prasithrathsint, A. (1996). “Stylistic Differentiation of kann and kwaam Nominalization in Thai.” Pan-Asiatic Linguistics: Proceedings of the Fourth International Symposium on Languages and Linguistics, Institute of Language and Culture for Rural Development, Mahidol University, Salaya, Nakhon Pathom.
Prasithrathsint, A. (1997). “The Emergence and Development of Abstract Nominalization in Standard Thai.” In Southeast Asian Linguistic Studies in Honour of Vichin Panupong, edited by Arthur S. Abramson, 179-190. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Prasithrathsint, A. (2005). “Nominalization and Categorization of Verbs in Thai.” In SEALS XV: papers from the 15th meeting of the Southeast Asian Linguistics Society, edited by Paul Sidwell, 73-81. Canberra: Pacific Linguistics.
Prasithrathsint, A. (2007). “A Comparison of Ways of Talking in Dehong Tai, Ahom Tai, and Sukhothai Thai with a Focus on Nominalization.” In Studies in Tai and Southeast Asian Linguistics, edited by Jimmy G. Harris, Somsonge Burusphat and James E. Harris, 1-9. Bangkok: Ekphimthai.
Prasithrathsint, A. (2014). “Nominalization as a marker of detachment and objectivity in Thai academic writing.” MANUSYA: Journal of Humanities 20 (Special Issue):1-20.
Schachter, P. & Shopen, T. (2007). “Parts-of-Speech Systems.” In Language Typology and Syntactic Description, Vol.1: Clause Structure, edited by Timothy Shopen, 1-60. Cambridge: Cambridge University Press.
Smyth, D. (2002). Thai: An Essential Grammar. London: Routledge.
Tallerman, M. (2011). Understanding Syntax. 3 ed. London: Hodder Education.
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright and plagiarism
Authors are responsible for obtaining permission to use copyrighted materials from copyright owners. Authors are responsible for observing requisite copyright law when quoting or reproducing copyrighted materials. Quotations and reproductions of content from other published sources must be accompanied by a reference and all sources should be clearly listed in the references section. Quotations and reproductions of content from external sources without due attribution could be considered a severe infringement of academic conduct and may constitute a legal offence under the Copyright Act of B.E. 2537. Any legal ramifications arising from the infringement of copyright regulations would be the sole responsibility of the author(s).