วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim <p>เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานวิชาการ นวัตกรรม ความก้าวหน้างานวิจัย และการสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการของนักวิจัย คณาจารย์และนักศึกษา ในสาขาบริหารธุรกิจ การจัดการ การตลาด เศรษฐศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ที่เกียวข้อง เป็นต้น</p> th-TH korbkul.jan@rmutr.ac.th (Korbkul Jantarakolica) jutamas.won@rmutr.ac.th (Jutamas Wongkantarakorn) Tue, 30 Apr 2024 22:29:37 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 Assessing Subsequent-Year Performance of Morningstar Award-Winning Large-Cap Equity Funds in Thailand https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/270953 <p>This research objective was to evaluate the performance of the Morningstar’s award-winning large-cap equity mutual funds in Thailand over a 10-year period. Annual returns were compared to the SET50 Total Return Index (SET50 TRI), a benchmark for large-cap equity funds. Findings showed that, despite receiving the awards, the funds did not outperform the benchmark in the first, second, and third years. The probabilities of outperforming were 36%, 30%, and 11% respectively. This highlights the challenges faced by these funds in sustaining exceptional performance over time. The study contributes to understanding the relationship between Morningstar Awards, subsequent fund performance, and benchmark comparisons.</p> Komwut Wissawapaisal Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/270953 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของธุรกิจตรวจสภาพรถโดยใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272294 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการในการใช้บริการของธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชน และเพื่อพัฒนาคุณภาพของการบริการของผู้ประกอบการธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชน โดยใช้เทคนิค Quality Function Deployment (QFD) เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพของการบริการ เริ่มต้นจากกระบวนการวิจัยที่มีการแปลงเสียงความคิดเห็นของลูกค้าเป็นแผนการและขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ ของ QFD ซึ่งเป็นวิธีการที่มีความเป็นระบบและมีการใช้งานที่เป็นระเบียบแก่ธุรกิจ ผู้วิจัยได้กำหนดขนาดของกลุ่มอย่างที่เป็นผู้ใช้บริการสถานตรวจสภาพรถเอกชนในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกโดยใช้ทฤษฎีของ Taro Yamane จำนวนทั้งสิ้น 385 ราย จากการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการในการใช้บริการของธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชนผู้ใช้บริการให้ความสำคัญกับการมีมาตรฐานในการตรวจสภาพรถเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตามด้วยความชำนาญของพนักงานในการตรวจสภาพรถ กระบวนการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ คำอธิบายขั้นตอนการให้บริการที่ชัดเจน และการมีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการตรวจสภาพรถอย่างพร้อมใช้งาน จากปัจจัยที่ได้ผู้วิจัยจึงนำมาพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความต้องการของผู้ใช้บริการกับข้อกำหนดทางด้านเทคนิคที่สถานประกอบการสามารถให้บริการได้เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการผู้ประกอบการธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชน พบว่า การได้รับการรับรองมาตรฐานของสถานที่ตรวจสภาพรถมีความสำคัญมากที่สุด การให้ความสำคัญในการอบรมและผ่านการฝึกอบรมของพนักงาน การได้รับใบอนุญาตในการดำเนินกิจการ มีคู่มือการดำเนินงานอย่างครบถ้วน และค่าบริการที่เหมาะสมตามลำดับ ปัจจัยที่ได้รับการระบุเหล่านี้เป็นแนวทางสำหรับธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชนในการปรับปรุงและพัฒนาบริการหลังจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้เป็นอย่างดี</p> พิชิตชัย เรือน้อย, วชิรธร จันทร์ชมภู Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272294 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนารูปแบบการจัดการแข่งขันกีฬาตามแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : กรณีศึกษายูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ครั้งที่ 39 “แม่ฮ่องสอนเกมส์ 2023” https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/273553 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ (1) ระบุสภาพปัญหาการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ย้อนหลัง 6 ครั้งที่ผ่านมา (2) พัฒนารูปแบบการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ตามโมเดลแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ (3) ประเมินผลการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ครั้งที่ 39 ตามแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รูปแบบการวิจัยเป็นแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 จำนวน 18 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน การวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ครั้งที่ 39 จำนวน 534 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถามแบบออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการสรุปใจความสำคัญ และการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า (1) การแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 มีการใช้วัสดุอุปกรณ์ชีวภาพจำนวนน้อย เกิดของเสียเหลือใช้จำนวนมาก ขาดการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังไม่สามารถสร้างมูลค่าเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (2) รูปแบบการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ตามโมเดลแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยหลักการสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรชีวภาพในท้องถิ่น เน้นการหมุนเวียนวัสดุอุปกรณ์ และใช้ระบบดิจิทัลเพื่อลดการสร้างคาร์บอน โดยมีค่าดัชนีความเหมาะสมจากการวิเคราะห์ปัจจัยเชิงยืนยันเท่ากับ 0.987 และ (3) ผลการจัดการแข่งขันยูยิตสู กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ครั้งที่ 39 ตามแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเกิดคุณค่าของการจัดการแข่งขันและประสบความสำเร็จในระดับมากที่สุด</p> ดิฏฐชัย จันทร์คุณา, อภิวันท์ โอนสูงเนิน, อลงกร นำบุญจิตต์ Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/273553 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 Is Earnings Quality Influenced by Environmental, Social, and Governance (ESG) Disclosures? Evidence from the Alternative Capital Market of Thailand https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/275277 <p>The study investigates (1) the level of environmental, social, and governance (ESG) disclosures in annual reports of Market for Alternative Investment (MAI) listed firms during 2017 to 2021, and (2) test for the impact of ESG disclosures on earnings quality. One hundred and twenty firms from the MAI were used as samples in this study (600 firm-year observations). We employed Content analysis to quantify the amount of the ESG disclosures, while an Extended Modified Jones of Yoon’s model was used to measure corporate earnings quality. Our results show that governance was the most common ESG disclosure in the annual report of MAI firms during the period being studied, followed by social disclosure and environmental disclosure respectively. There was an increasing trend of environmental, social, and disclosures between 2017 to 2021. Moreover, the study found a significant and negative impact of social disclosure on earnings management, suggesting that firms with higher levels of social disclosure are likely to engage in less earnings management. Conversely, the positive association between environmental and governance disclosure and earnings quality could imply less engagement in earnings management activities.</p> Muttanachai Suttipun, Thanyawee Pratoomsuwan Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/275277 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 The Effect of Green Bond on Cumulative Abnormal Return and Abnormal Trading Volume in ASEAN Countries https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/270662 <p>The purpose of this research was to study the impact of the issuance of green bonds on cumulative abnormal returns and abnormal securities trading volume in ASEAN. The data was collected manually through media websites at the time the company announced the issuance of green bonds. The data also included financial information and comparison amongst other listed companies that did not issue green bonds from 2017-2021. The research used Event Study to analyze whether there was any cumulative abnormal return or any abnormal trading volume before the issuance of green bonds and after that. Pearson and multiple regression were used to analyze these correlations. The study showed that the issuance of green bonds did not increase cumulative abnormal returns or decrease abnormal trading volume. Therefore, it can be concluded that companies willing to increase their positive image on society and the environment could issue green bonds without taking extra precautions on cumulative returns and securities trading volume.</p> Ausanee Ratsameewongjan, Joompoth Sanitthangkul, Konnut Puketkeaw Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/270662 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 The Influence of Online Brand Community on Customers: A Case Study of A Multinational Motorcycle Company in Nepal https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/276434 <p>Online brand community (OBC) played criticle role among motorcycle riders in Nepal who were so passionate about motorcycles since it allowed them to share and learn information as well as the experience among the members. The purposes of this study were as follows: 1) to explore the relationship among brand reputation, brand trust, and brand loyalty; and 2) to examine the relationship among OBC engagement, OBC attitude, brand trust, and brand loyalty. This study used a quantitative approach via self-administered questionnaire using the convenience sampling. They were distributed to customers who had accessed to online brand community (OBC) of the selected multinational motorcycle company in Nepal in 2023. The study included 297 respondents. The regression analysis and coefficients showed that product &amp; services dimension (β=.176) of brand reputation has positive impact on brand trust, while social &amp; environmental responsibility dimension (β=-259) of brand reputation has negative impact on brand trust. Furthermore, the study found that OBC engagement (β=-.126) has negative impact on OBC customer attitude; OBC customer attitude (β=.832) has positive impact on brand trust; and brand trust (β=.765) has positive statistically significantly impact on brand loyalty. The findings concluded that the company should focus on improving OBC customer attitude in order to increase brand trust, which also would enhance improvement on brand loyalty, thus, achieve their organizational objectives.</p> Alin Gurung, Sasithorn Suwandee, Chairat Suriyapa, Suwat Suwandee Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/276434 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 การเปิดเผยข้อมูลจำนวนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐาน ของประเทศไทยและมูลค่าเงินลงทุนที่มีอิทธิพลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน ของบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272977 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของการเปิดเผยข้อมูลจำนวนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย และมูลค่าเงินลงทุนของบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) จำนวน 48 บริษัท ในปี พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2565 และจำนวน 49 บริษัท ในปี พ.ศ. 2564 การเก็บรวบรวมข้อมูลทำการเก็บจากรายงานประจำปีในรอบระยะเวลาบัญชี และรายงานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2563 - 2565 สถิติในการวิจัยครั้งนี้คือการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) เพื่อทดสอบอิทธิพลระหว่างตัวแปร ผลการวิจัยพบว่าการเปิดเผยข้อมูลจำนวนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) มีอิทธิพลในทิศทางบวกต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญ .01 ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (IV) มีอิทธิพลในทิศทางลบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญ .01 ตลอด 3 ปีที่ทำการศึกษาวิจัย การวิจัยในครั้งนี้จึงสามารถใช้ข้อมูลเพื่อ สนับสนุนแนวทางการกำหนดนโยบายของบริษัทได้ว่า หากบริษัทต่าง ๆ ดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย T-VER จะสามารถสะท้อนไปถึงผลตอบแทนจากการลงทุนได้</p> ดารารัตน์ โพธิ์ประจักษ์, อุภาวดี เนื่องวรรณะ, ทิพย์วัน สุขสัน, ธันย์ชนก อินสุข, ปวีณา พรมต้นวงษ์, ณัฐมน คำครุฑ Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272977 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700 อิทธิผลจากการวางแผนภาษีที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272992 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลกระทบจากการวางแผนภาษีที่มีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาผลกระทบจากการวางแผนภาษีที่มีผลต่อการจ่ายเงินปันผลของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 200 บริษัท ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2563 - 2565 การเก็บข้อมูลจากรายงานประจำปี (56-1) ใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงการศึกษาครั้งนี้ใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยแบบพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่าอิทธิผลจากการวางแผนภาษีส่งผลต่อผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลการศึกษาพบว่า การวางแผนภาษีอัตราส่วนภาษีต่อสินทรัพย์รวมรายปี (TAX/ASSETS) มีอิทธิพลในทิศทางบวกต่อมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาตร์ (EVA) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .01 และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (ETR) มีอิทธิพลในทิศทางลบต่อมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาตร์ (EVA) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .01 ในขณะที่ช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลการศึกษาไม่พบอิทธิพลจากการวางแผนภาษีที่ส่งผลต่อการจ่ายเงินปันผลของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การศึกษาครั้งนี้ พบว่า สถานการณ์วิกฤตมีผลกระทบต่ออิทธิพลจากการวางแผนภาษี ที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผล</p> ศิริพร มาลัยเปีย, ทิพย์วัน สุขสัน, กนกพร แตงน้อย, กัญญาภัทร นรินทร์, จิตรี สุกรีรักษ์, นพเกตุ มั่นสุข, ดารารัตน์ โพธิ์ประจักษ์ Copyright (c) 2024 วารสารนวัตกรรมธุรกิจ การจัดการ และสังคมศาสตร์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/view/272992 Tue, 30 Apr 2024 00:00:00 +0700